xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกฟ้อง "สนธิ" หมิ่น "สยามราช" ชี้เกี่ยวกับปย.สาธารณะ-ติชมเป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันนี้ (17 ก.พ.) ที่ศาลจังหวัดแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้มีการนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.85/2566 ซึ่งนายสยามราช ผ่องสกุล อายุ 47 ปี เป็นโจทก์ ฟ้องร้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในคดีหมิ่นประมาท อันเกี่ยวข้องกับการที่นายสนธิออก รายการสนธิ ทอล์ค Ep.196 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 โดยโจทก์กล่าวหาว่า นายสนธิหมิ่นประมาทตนเอง โดยนำตนเองไปเกี่ยวพันกับบุคคลที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด และเกี่ยวพันกับ DSI
.
ทั้งนี้ ศาลจังหวัดแม่สะเรียงได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ ซึ่งศาลได้พิพากษาให้ยกฟ้องนายสนธิ

นายสยามราช ผ่องสกุล
โดย สรุปคำพิพากษานายสยามราช-นายสนธิ (อ.85/66) มีดังนี้
.
"เมื่ออ่านและพิจารณาข้อความที่จำเลยกล่าวในรายการสนธิทอล์คตาม จ.4,จ.6,จ.7 และ จ.9 ประกอบกับวัตถุพยานโจทก์ วจ.1 (30 มิ.ย. 66) (2 ก.ค. 66) (4 กค.66) แล้วก็ล้วนเป็นเรื่องเดียวกันเป็นข้อความที่จำเลยกล่าวครั้งเดียวในรายการเดียวกัน เห็นว่าในส่วนแรกนั้นเรื่องส่วนใหญ่ล้วนเป็นบทความที่จำเลยมุ่งประสงค์ บรรยายสรุปถึงพฤติกรรมต่างๆของกลุ่มขบวนการทุจริตซึ่งกำลังถูกติดตามตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการทุจริตต่างๆที่เกิดขึ้นในบริษัทปตท., บริษัทจีจีซี., บริษัทพีทีทีจีซี. ซึ่งมีความซับซ้อนให้เข้าใจโดยง่าย สะดวกแก่การติดตามโดยใช้ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กลต., ป.ป.ช., ดีเอสไอ ตลอดจนบริษัทจีจีซี ซึ่งเป็นที่รับทราบกันทั่วไปแพร่หลายดีอยู่แล้ว มาเรียบเรียงกล่าวขึ้นมาใหม่ โดยล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงที่สำนักข่าวหรือสื่อสารมวลชนอื่นนำเสนอเช่นกันหาใช่มีแต่จำเลยที่นำเสนอข่าวเท่านั้นและยังไม่ปรากฏว่าเป็นเรื่องที่จำเลยปั้นแต่งหรือกุขึ้นมาเอง ลักษณะเป็นการกล่าวเล่าเรื่องสรุปสาระสำคัญประกอบแผนผังขั้นตอนการทุจริตตลอดจนความสัมพันธ์ของกลุ่มผู้ทุจริตแต่ละคน รวมทั้ง บริษัทที่เกี่ยวข้องซึ่งมีอยู่หลากหลายให้ประชาชนผู้ติดตามรับฟังภาพเชื่อมโยงที่มาที่ไป จึงเป็นเรื่องที่จำเลยเพียงแต่ต้องการนำเสนอรายละเอียดของข้อเท็จจริงที่ซับซ้อนเพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวกในการติดตามเท่านั้นและเป็นคนละส่วนแยกกับที่จำเลยกล่าวถึงโจทก์ในตอนท้าย เห็นได้ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องกับโจทก์ ยังไม่มีข้อความส่วนใดจะแปลความได้ถึงขนาดว่าจำเลยระบุชัดแจ้งหรือกล่าวยืนยันข้อเท็จจริงใส่ร้ายโดยตรงแล้วว่าโจทก์เป็นสมาชิกหรืออยู่ในกลุ่มขบวนการทุจริตดังกล่าว หรือรับจ้างนางแนนซี่กับพวกให้มาร้องเรียน อันจะสื่อได้ว่ามีเจตนาใส่ร้ายป้ายสีโจทก์
.
ข้อความที่จำเลยกล่าวในตอนท้ายว่า กลับมาเรื่องของนายสยามราช .... ร่วมกับนายธนกร…. ก็มีลักษณะเป็นการตั้งประเด็นอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างนางแนนซี่กับโจทก์ ตลอดจนข้อสงสัยถึงพฤติการณ์ของโจทก์ที่นำเรื่องมาร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐเร่งรีบซ้ำๆ เพื่อให้ประชาชนช่วยกันติดตาม ว่าเหตุใดโจทก์จึงยอมแลกเอาตัวเข้าเสี่ยงภัยโดยตรงโดยไม่ดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบของบริษัทตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยว
.
พฤติการณ์แห่งคดี น่าเชื่อว่าจำเลยเพียงต้องการสื่อข้อมูลให้ประชาชนทั่วไปรับทราบว่าเพราะเหตุใดโจทก์ซึ่งเป็นทนายความของนางแนนซี่จึงมาร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุตามที่ตนเข้าใจมาโดยสุจริตเท่านั้นจำเลยนำเสนอข้อมูลส่วนใหญ่ไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการสอบสวนของผู้เกี่ยวข้อง
.
ดังนั้น แล้วข้อความที่จำเลยกล่าวในรายการ จึงถือเป็นเรื่องที่จำเลยในฐานะประชาชนนำเสนอข่าวสารที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงข้อมูลที่โจทก์ร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐโดยไม่ทราบสาเหตุและเพื่อตั้งประเด็นให้ช่วยกันติดตามพฤติการณ์ของโจทก์ต่อไปเท่านั้น
.
ถือได้ว่าเป็นการกล่าวติชมและตั้งข้อสังเกตตามสมควร ในลักษณะเป็นคำถามนำเสนอข่าวสารเชิงวิเคราะห์ของจำเลยแก่สังคมเกี่ยวกับสาธารณะประโยชน์และติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ
.
จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 (3) พิพากยกฟ้อง"

รายการสนธิ ทอล์ค Ep.196
กำลังโหลดความคิดเห็น