จันทบุรี - เจออีกขบวนการบุกรุกป่าจันทบุรี คราวนี้ที่เขตรอยต่อ อ.แก่งหางแมว-เขาคิชฌกูฏ กินเนื้อที่มากถึง 1,848 ไร่ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งหางแมว ลงพื้นที่ตรวจสอบพบทั้งเครื่องจักรกล เครื่องมือหนัก รวมทั้งร่องรอยการตัดไม้ยางพาราและไม้กระยาเลยจำนวนมาก
วันนี้ (14 ก.พ.) พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยผู้กำกับการ สภ.แก่งหางแมว ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่กว่า 1,848 ไร่ ในเขตรอยต่อระหว่าง อ.แก่งหางแมว และ อ.เขาคิชฌกูฏ ซึ่งเป็นการขยายผลจากปฏิบัติการของกรมป่าไม้ โดยหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) ที่ได้รับข้อมูลว่ามีกลุ่มนายทุนลักลอบตัดไม้และแผ้วถางพื้นที่โดยใช้เครื่องจักรหนัก พื้นที่ ม.7 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว และพื้นที่ ม.7 ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ
เบื้องต้นพบพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าจันตาแป๊ะ ป่าเขาวังแจง และป่าขุนซ่อง และยังพบตอไม้ รวมทั้งร่องรอยการตัดไม้ยางพาราและไม้กระยาเลยเป็นจำนวนมาก
"พื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นสวนยางพาราของชาวบ้านที่ครอบครองทำกินมาตั้งแต่ปี 2523 ภายใต้โครงการให้เช่าพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมของรัฐบาล ซึ่งเมื่อหมดอายุสัมปทาน พื้นที่ได้ถูกยึดคืนเป็นเขตป่าสงวน ทำให้ผู้ครอบครองเดิมบางส่วนไม่ยอมออกจากพื้นที่และมีการลักลอบตัดไม้ จนนำไปสู่การร้องเรียนต่อกรมป่าไม้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้มาแสดงตนเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนจะมีความเกี่ยวข้องกับนายทุนจีนหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมี แต่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง"
พ.ต.อ.ธราเทพ เผยเพิ่มเติมว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่พร้อมแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งหางแมว เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างกระบวนการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องตรวจสอบสิทธิของผู้ครอบครองให้ชัดเจนต่อไป
