xs
xsm
sm
md
lg

ยอดขาย “เทสลา” ยุโรปร่วงมโหฬาร ยี้ “อีลอน มัสก์” – รอรถรุ่นใหม่ หรือสารพัดปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กลายเป็นบุคคลที่ทั่วโลกพากันจับจ้องสำหรับมหาเศรษฐีพันล้านอย่าง“อีลอน มัสก์ ( Elon Musk)” และผู้ก่อตั้งบริษัท“รถไฟฟ้าเทสลา” ถึงขนาดที่นิตยสารไทม์สจับขึ้นปก โดยให้นั่งเก้าอี้ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในทำเนียบขาวเลยทีเดียว หลังยอมเดิมพันทุ่มเงินถึง 250 ล้านดอลลาร์ช่วยให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้งเหนือคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส สำเร็จ พร้อมทั้งกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลและมีผลต่อนโยบายทรัมป์ 2.0 อย่างมีนัยสำคัญ

ทว่า ในขณะที่อำนาจในทางการเมืองของมัสก์เพิ่มขึ้น ผลประกอบการของ “เทสลา” กลับกำลังมีปัญหา โดย “เดอะมิร์เรอร์” ของอังกฤษรายงานวัน ว่า มหาเศรษฐีพันล้านผู้นี้เป็นต้นเหตุเทสลาต้องเชิญกับความยากลำบากกับยอดขายตกครั้งใหญ่ทั่วยุโรป

ในเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเดียวที่มีโรงงานรถเทสลาตั้งอยู่พบว่า ในเดือนที่ผ่านมาเทสลามียอดขายเพียง 1,277 คันตกไปถึง 59.5% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ โรงงานเทสลากิ๊กกาแฟคทอรีที่กรุงเบอร์ลิน มีความสามารถผลิตได้ราว 500,000 คัน/ปี

รายงานจากเว็บไซต์ของ Federal Motor Transport Authority หรือ KBA หน่วยงานควบคุมการจราจรทางถนนของเยอรมนีระบุว่า จำนวนรถยนต์เทสลาที่จดทะเบียนใหม่ลดลงถึง 59.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ด้วยยอดเพียง 1,277 คัน ในเดือนมกราคม 2025

ในขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ทั้งหมดมีมากกว่า 207,000 คัน ลดลงเพียง 2.8% เท่านั้น เมื่อเทียบในช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า

ส่วนที่อังกฤษยอดขายเทสลาในตลาด EV ร่วงลงจากที่เคยมียอดขายอันดับ 2 เมื่อเดือนมกราคม 2024 ลงมาอยู่ที่อันดับ 7 ตามหลัง Volkswagen, Mercedes, และ Peugeot ของ Stellantis ซึ่งทั้งหมดมียอดขายสูงขึ้นสวนทางเทสลา

ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็มีสภาพไม่ต่างกัน เช่น ฝรั่งเศสยอดขายรถเทสลาในมกราคมตกไป 63% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2024เนเธอร์แลนด์ยอดขายตกไป 42.5% นอร์เวย์ยอดขายตก 40.2% สเปนยอดขายตก 75.4% สวีเดนยอดขายตก 46.0% เดนมาร์กยอดขายตก 40.9% โปรตุเกสยอดขายตก 31.0%

เห็นได้ว่ายอดขายในทั่วทั้งยุโรปลดลงในหลายประเทศ โดยเฉพาะ สเปน เยอรมนีและฝรั่งเศส ที่ลดค่อนข้างมากเลยทีเดียว ทำให้ยอดขายโดยรวมลดถึง 50.4%

สื่ออังกฤษชี้ว่า ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมบางส่วนออกมาเปิดเผยว่า ยอดขายที่ตกลงเป็นผลมาจากตลาดรถไฟฟ้าในยุโรปอยู่ในช่วงขาลง มาจาก 2 ปัจจัยคือ

หนึ่ง- ไม่เห็นด้วยกับกับการที่อีลอน มัสก์แทรกแซงทางการเมืองในยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมนีที่เขาตกเป็นข่าวพาดหัวเนื่องจากไปโจมตี“นาย Olaf ScholzWนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี และ“นาย Frank-Walter Steinmeier”ประธานาธิบดีเยอรมนี

นอกจากนี้ มัสก์ยังออกมาสนับสนุนให้เลือกพรรค AfD ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองขวาจัดโดยเขาเคยหารือสดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ “X” กับ“นาง Alice Weidel”หัวหน้าพรรค Alternative für Deutschland(AfD) ซึ่งน่าจะทำให้ลูกค้าชาวเยอรมันบางส่วนก็ไม่พอใจกับการกระทำของเขา

และสอง- ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อเพราะรอรถเทสลารุ่นที่มีการปรับปรุง ขณะที่คู่แข่งรวมถึงผู้ผลิต EV ของจีนมีผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่กว่าในตลาด

ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ในเยอรมนีแม้ว่าเทสลาจะมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษในกลุ่มผู้บริโภคส่วนบุคคล แต่ในปี 2024 จากข้อมูลของ Dataforce พวกเขากลับสูญเสียลูกค้าเชิงพาณิชย์ และลูกค้าที่เป็นบริษัทผู้ให้บริการรถยนต์ไปถึง 18.6% ซึ่งธุรกิจกลุ่มนี้คือ จุดที่รถยนต์สัญชาติเยอรมันสามารถทำคะแนนได้มากกว่า ลูกค้าเชิงพาณิชย์ อย่างเช่น บริษัทเอกชนขนาดใหญ่หรือบริษัทให้เช่ารถยนต์ ไม่พอใจกับประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทเทสลาในปีที่ผ่านมา SAP กลุ่มบริษัทเทคโนโลยี และบริษัท Sixt และ Hertz บริษัทให้เช่ารถยนต์ได้ถอดรถเทสลาออกจากกองรถยนต์ของตน เนื่องจากการลดราคาครั้งใหญ่ซึ่งเทสลาสร้างความประหลาดใจให้กับลูกค้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เนื่องจากลูกค้าเชิงพาณิชย์จะต้องปรับมูลค่าคงเหลือที่ตั้งไว้ในงบดุลอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการตั้งราคาการขายต่อไว้ด้วย

นอกจากนี้ บริษัทเทสไม่ลาเหมือนกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน พวกเขาไม่มีข้อเสนอการรับประกันการซื้อรถยนต์คืนอีกด้วย ผลที่ตามมาก็คือ ค่าเสื่อมราคาที่สูงของรถ EV ทำให้ผลกำไรประจำปีของ Sixt ในปี 2024 ลดลงอย่างหนัก

สอดรับกับ “ไชน่าเดลี” ของจีนรายงานว่า ยอดขายของเทสลาในเดือนมกราคมที่ผ่านมาใน 5 ประเทศซึ่งเป็นตลาดหลัก รวมอังกฤษและฝรั่งเศส ลดลง โดยเป็นผลจากการที่คู่แข่งมีรถรุ่นใหม่ทำยอดขายได้ดีกว่าและอีกทั้งโพลสาธารณะสำรวจความคิดเห็นชี้ไปว่า ต้นเหตุมาจากซีอีโอบริษัทคือ อีลอน มัสก์ เอง


นอกจากนี้ยอดขายเทสลาในสหรัฐฯ ก็ร่วงลงหนักด้วยเช่นกัน มีรายงานว่ายอดขายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ที่มีการซื้อรถยนต์ใหม่มากกว่า 1.7 ล้านคันในปี 2024 แต่ยอดขายของเทสลาในตลาดนี้กลับร่วงลงมากถึง 12%

เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา เทสลาประกาศยอดขายประจำปีลดลงเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะยังคงครองอันดับ 1 ของผู้ขาย EV ในสหรัฐอเมริกาก็ตาม ซึ่งมัสก์ได้กล่าวไว้ว่า เขาจะเปิดตัว EV ราคาถูกกว่าที่รอคอยกันมานานในเร็ว ๆ นี้ ในปี 2025 และบริษัทได้เพิ่มการมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จำนวนมากเริ่มกังวลกับทิศทางในอนาคตของเทสลา โดยไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา“Bank of America”กำหนดระดับหุ้นเทสลาไว้เป็นแบบ “เป็นกลาง” (หมายความว่า ไม่ได้แนะนำให้ซื้อ หรือขายหุ้นที่กำลังพิจารณาอยู่ แต่แนะนำให้รอดูท่าทีก่อน)

นักวิเคราะห์อธิบายการปรับลดระดับดังกล่าวว่า “เทสลาจะต้องปรับปรุงสินค้า/รถยนต์ของตน เพื่อเพิ่มความต้องการอย่างค่อยเป็นค่อยไป” โดยผู้เชี่ยวชาญเริ่มกังวลตั้งแต่เห็นตัวเลขการส่งมอบสินค้าทั่วโลกปี 2024 เมื่อเทียบเป็นรายปีนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเทสลาที่ตัวเลขดังกล่าวลดลง ถึงแม้ว่าบริษัทจะพยายามป้องกันปัญหานี้ในไตรมาสที่ 4 ด้วยการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด หรือการชาร์จไฟฟรี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ราคาหุ้นของบริษัทลดลงถึง 7%
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าในปี 2025 ยอดขาย Tesla จะเป็นอย่างไรในยุโรป เพราะต้องไม่ลืมว่า ผลประกอบการปี 2024 ของ Tesla ระบุว่า Model Y เป็นรถยนต์ขายดีที่สุดในบรรดารถยนต์ทุกประเภทในประเทศเดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ และเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศนอร์เวย์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น