เหตุระทึกเครื่องบินสายการบินแอโรฟลอต ออกจากภูเก็ตกลับรัสเซีย แต่มีปัญหาบริเวณล้อของตัวเครื่อง ต้องบินวนหลายรอบนาน 5 ชั่วโมง ก่อนลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย ด้าน ตม. ใช้แผน AOG อำนายความสะดวก ระหว่างผู้โดยสารพักในเมือง รอเครื่องบินมารับกลับประเทศ
จากกรณีที่สายการบินแอโรฟลอต (Aeroflot) เที่ยวบินที่ SU277 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานภูเก็ต เวลา 15.20 น. เมื่อวันที่ 10 ก.พ. มุ่งหน้าท่าอากาศยานเชเรเมเตียโว (SVO) กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย โดยใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-300 (ER) ทะเบียน RA-73158 ได้เกิดข้อขัดข้องในระบบทางเทคนิค มีปัญหาบริเวณล้อของตัวเครื่อง หลังเครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้า สามารถเก็บล้อได้ แต่ไม่สามารถปิดฝาครอบได้ จึงไม่สามารถทำการบินไปสนามบินปลายทางได้ โดยได้บินวนทะเลอันดามัน บริเวณเกาะคริสตี สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ใกล้เกาะสุรินทร์เหนือ จ.พังงา และทะเลอ่าวไทย บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วม 5 ชั่วโมง ก่อนจะขอเปลี่ยนเส้นทาง (Divert) และขอลงจอดฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
ภายหลังได้รับการรายงานเหตุดังกล่าว นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้มีข้อสั่งการให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เตรียมการรองรับเหตุฉุกเฉิน โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนแผนเผชิญเหตุ ควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เมื่อได้รับข้อสั่งการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ดำเนินการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย รวมถึงฝ่ายแพทย์เตรียมความพร้อมทุกด้านเป็นไปตามแผนเผชิญเหตุ ทั้งอุปกรณ์และกำลังพล อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 21.11 น. วันที่ 10 ก.พ. เที่ยวบินลำดังกล่าวสามารถลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ทางวิ่ง 01 R เข้าจอดที่หลุมจอด 115
ขณะลงจอดและลำเลียงผู้โดยสารลงจากเครื่อง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแล รวมถึงแจกน้ำดื่มแก่ผู้โดยสาร และได้รับแจ้งจากสายการบินในเบื้องต้นว่าจะจะนำลูกเรือ 15 คนและผู้โดยสาร 331 คน เข้าพักโรงแรมภายนอก และทางสายการบินจะดำเนินการจัดสรรเที่ยวบินให้ผู้โดยสารต่อไป แม้สถานการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้ประกาศใช้แผนฉุกเฉินของสนามบิน แต่ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ และจากการที่สายการบินแอโรฟลอตเลือกมาลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัย และความพร้อมในการรองรับหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น
ด้านกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (บก.ตม.2) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำโดย พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ได้รับการประสานงานว่า เที่ยวบินดังกล่าว มีผู้โดยสารชาวรัสเซีย 327 คน ชาวเบลารุส 3 คน ชาวมาเลเซีย 3 คน ชาวบริติช 1 คน และลูกเรือชาวรัสเซียทั้งหมด 15 คน รวม 349 คน ซึ่งจะมีรถบัสไปรับผู้โดยสารทั้งหมดจากบริเวณที่จอดเครื่องบินเฉพาะกรณีฉุกเฉิน เพื่อพาผู้โดยสารมายังอาคารผู้โดยสาร ฝั่งขาเข้า ซึ่ง บก.ตม.2 สนับสนุนด้านพิธีการเข้าเมืองสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องพักรอเปลี่ยนเครื่องบินลำใหม่ ตำรวจ บก.ตม.2 ดำเนินการประกัน ผู้โดยสารตามแผน AOG (Air on Ground) เพื่อนำเข้าพักในเมือง ระหว่างรอเครื่องบินมารับเดินทางกลับประเทศรัสเซียต่อไป
โดยขั้นตอนตามแผน AOG คือ หากเกิดกรณีฉุกเฉินหลังจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประทับตราตรวจคนเข้าเมือง (ขาออก) เพื่อเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องกลับเข้ามาราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง และต้องออกไปพักนอกท่าอากาศยาน ทางสายการบินต้องรวบรวมหนังสือเดินทางของผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางในสายการบินนั้น มาเก็บไว้กับ ตม. โดยไม่ต้องประทับตราขาเข้าเมือง จากนั้นเมื่อถึงวันที่เดินทางกลับทางสายการบินต้องนำผู้โดยสารทุกคนมาแจ้งกับ ตม. เพื่อตรวจสอบชื่อ สกุล สัญชาติ ให้ตรงกับการเดินทางเข้าและเดินทางออก จากนั้น ตม. จะคืนหนังสือเดินทางให้กับผู้โดยสาร เพื่อขึ้นเครื่องบินเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป
รายงานเพิ่มเติมระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777-300 (ER) ทะเบียน RA-73158 ของสายการบินแอโรฟลอต ประเทศรัสเซีย ที่ผ่านมาทำการบินเส้นทางระหว่างรัสเซียกับประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ทำการบินระหว่างท่าอากาศยานเชเรเมเตียโว เมื่อเวลา 19.55 น. วันที่ 7 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันที่ 8 ก.พ. เวลา 08.16 น. ตามเวลาประเทศไทย จากนั้นออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 10.10 น. วันที่ 8 ก.พ. ตามเวลาประเทศไทย ถึงท่าอากาศยานเชเรเมเตียโว เวลา 15.24 น. ตามเวลาท้องถิ่น กระทั่งวันที่ 10 ก.พ. ออกจากท่าอากาศยานเชเรเมเตียโว เวลา 01.27 น. ตามเวลาท้องถิ่น ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต เวลา 14.23 น. ตามเวลาประเทศไทย ก่อนออกจากท่าอากาศยานภูเก็ตเวลา 16.35 น. ตามเวลาประเทศไทย แล้วประสบเหตุขัดข้องดังกล่าว ปัจจุบันสายการบินแอโรฟลอต มีเครื่องบิน 777-300 (ER) จำนวน 22 ลำ
