ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ยืนยันไม่ยอมความ กรณี "สิระ เจนจาคะ" อดีต สส. รับสารภาพในชั้นฎีกา จ่าย 5 แสน ถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท หวังศาลฎีกาลดโทษเป็นรอลงอาญา หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาลดโทษเป็นจำคุก 10 เดือนแต่ไม่รอลงอาญา คดีบุกรุกโรงพยาบาลสนามช่วงโควิด-19
วันนี้ (10 ก.พ.) เฟซบุ๊ก "เหรียญทอง แน่นหนา" ของ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความถึงบุคคลรายหนึ่ง กล่าวโดยสรุปว่า จำเลยผู้ต้องคดีบุกรุกโรงพยาบาลสนามในสถานการณ์โรคระบาดจนทำให้เปิดรับการส่งตัวผู้ป่วยโควิด-19 ชั้นสีแดงล่าช้าไป 1 สัปดาห์ เสียโอกาสในการรอดชีวิต เสียชีวิตหลายรายในระหว่างเดือน พ.ค. 64 จำเลยยังหมิ่นประมาทโจทก์สารพัด คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยหลายกรรมโดยไม่รอลงอาญา จำเลยขอฎีกาต่อศาลฎีกาตั้งแต่ปลายปี 2566 คดีใกล้ถึงที่สุดในชั้นศาลฎีกา จำเลยจึงขอกลับคำให้การต่อสู้คดีเป็นสำนึกผิด รับสารภาพผิด ขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับโจทก์ด้วยการชดใช้เงินค่าเสียหาย 500,000 บาท พร้อมกับการที่จำเลยถอนฟ้องโจทก์ในคดีสารพัดที่จำเลยกลั่นแกล้งให้โจทก์ต้องคดีอาญา เพื่อขอให้ศาลฎีกาเมตตาลดหย่อนผ่อนโทษเป็นการรอลงอาญาแก่จำเลย
"จำเลยไม่ได้สำนึกผิดจริง เพราะหากสำนึกผิดจริง จำเลยต้องสำนึกและสารภาพผิดตั้งแต่เนิ่นนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาสำนึกผิดเมื่อคดีใกล้จะสิ้นสุดในชั้นศาลฎีกา จำเลยเป็นถึงประธานกรรมาธิการฯ ด้านกฎหมาย ในสภาผู้แทนราษฎร เป็น สส. จำเลยย่อมต้องมีความรู้ ความเข้าใจกฎหมายเป็นอย่างดี ต้องเข้าใจการใช้อำนาจ และต้องรู้ว่าการกระทำใดเป็นการลุแก่อำนาจ ผิดกฎหมาย จำเลยเป็นนักการเมืองจะต้องมีจริยธรรมสูง เป็นตัวอย่างที่ดีกล้ารับผิดในสิ่งที่ตนกระทำไปยิ่งกว่าประชาชนทั่วไป การชดใช้เงินค่าเสียหาย 500,000 บาท พร้อมกับการที่จำเลยถอนฟ้องโจทก์ในคดีสารพัดที่จำเลยกลั่นแกล้งให้โจทก์ต้องคดีอาญา ทั้งนี้เพื่อขอให้ศาลฎีกาเมตตาลดหย่อนผ่อนโทษเป็นการรอลงอาญาแก่จำเลย เป็นการใช้เงินทำลายความยุติธรรมให้เห็นว่า คุกมีไว้ขังคนจน" พล.ต.เหรียญทอง กล่าว
พล.ต.เหรียญทอง กล่าวต่อว่า ในอดีตจำเลยเคยต้องโทษคดีอาญาจำคุกหลายคดี ดังปรากฎในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คดีนี้จะเป็นอีกคดีหนึ่งที่พิสูจน์ว่า ความเมตตาของศาลในการให้ลดหย่อน ผ่อนโทษ รอลงอาญา จำเลยซึ่งเป็นบุคคลผู้มีอำนาจเป็นนักการเมือง เป็นถึงประธานกรรมาธิการฯ ด้านกฎหมาย ในสภาผู้แทนราษฎร เป็น สส เป็นผู้มีฐานะทางการเงิน จะส่งผลเสียต่อความศักดิ์สิทธิของกฎหมาย ต่อกระบวนการยุติธรรมแก่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตจากการเสียโอกาส ไม่มีโอกาสได้เรียกร้องความเป็นธรรม เงินค่าเสียหายเพียง 500,000 บาทเทียบไม่ได้กับมูลค่าของชีวิตผู้ป่วยอันเป็นที่รักของครอบครัวจำนวนมาก และยังส่งผลเสียต่อการรักษาความสงบสุขเรียบร้อยของสังคม
ทั้งนี้ เพื่อให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์และยุติธรรมเป็นที่หวังพึ่งได้ของประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะการควบคุมนักการเมือง ข้าราชการ หรือผู้มีอำนาจรัฐที่ประพฤติชั่ว ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างว่าเป็นผู้มีอภิสิทธิ์เหนือใคร
การรอลงอาญาจำเลยรายนี้จะเป็นการบ่อนทำลายความยุติธรรมของศาลยุติธรรมซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน และจะทำให้สังคมไทยไม่สงบสุขเรียบร้อย อันเนื่องจากไม่สามารถพึ่งพาความยุติธรรมจากศาลยุติธรรมได้ สังคมไทยจะเลวร้ายลงต่อไปจากการให้โอกาสคนชั่วได้มีโอกาสซ้ำเติมสังคมให้ทรุดต่ำลง
"จำเลยไม่ได้มีเกียรติประวัติ คุณงามความดีใดๆ ที่ศาลสมควรที่จะนำมาพิจารณาเพื่อลดหย่อนผ่อนโทษ จำเลยไม่เข็ดหลาบทั้งๆ ที่เคยจำคุกในหลายคดีมาก่อนหน้านี้แล้ว การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่ประวัติคุณงามความดีของจำเลย หากแต่จำเลยได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่จำเลยลักลอบสมัครอย่างผิดกฎหมายตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คดีนี้โจทก์หวังพึ่งศาลยุติธรรมว่าจะมีคำพิพากษาที่เด็ดขาด ลงโทษจำเลยโดยไม่มีการลดหย่อนผ่อนโทษ ไม่มีการรอการลงโทษหรือรอลงอาญา ทั้งนี้เพื่อไม่ให้คนไม่ดีก่อความวุ่นวาย ทำร้ายสังคมดังเช่นจำเลยรายนี้อีกต่อไป" พล.ต.เหรียญทอง กล่าว
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับบุคคลที่ พล.ต.เหรียญทองกล่าวถึง คือ นายสิระ เจนจาคะ อดีต สส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นที่ศาลแขวงดอนเมือง โดยบริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด ที่ 1 และ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ที่ 2 โจทก์ ยื่นฟ้อง นายสิระ จำเลย ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 ศาลอุทธรณ์พิพากษาลดโทษจากจำคุก 16 เดือน เหลือจำคุก 10 เดือนโดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานหมิ่นประมาทจาก 5 กระทง เหลือ 2 กระทง รวมจำคุก 4 เดือน รวมกับโทษความผิดฐานบุกรุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น 6 เดือน รวมเป็นจำคุก 10 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เเล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา
