ลำปาง - พาชมธุรกิจเลี้ยงนกราคาแพง เจ้าของธุรกิจเผยขายง่ายกว่าขายที่ดิน ราคาดี บางตัวบางพันธุ์หลักล้านไม่มีต่อแม้แต่บาทเดียว
“นกแก้วมาคอว์” เป็นนกแก้วที่มีขนาดใหญ่ที่สุด สีสันสวยงาม เสียงร้องดังมาก จะงอยปากใหญ่เป็นพิเศษ เหนือปากด้านบนจะมีสีขาวเส้นเล็ก ๆ คาดระหว่างปากกับหัว บนหัวมีขนสีเขียวสดและสีฟ้า ดวงตามีขนเป็นลายเส้นดำ 4-5 เส้น ขนบริเวณคอจนถึงหน้าอกเป็นสีเหลืองเข้มและขนหางมีสีแดงสด ขาสั้นใหญ่ แข็งแรง ขนที่ปีกบางทีก็เป็นสีฟ้าและสีเหลืองหรือสีเขียวเหลือง ขนาดของนกแก้วมาคอว์มีขนาดตั้งแต่ 32-35 นิ้ว ถือเป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงสำหรับคนที่มีเงินมักจะนิยมซื้อเลี้ยงไว้เพื่อดูความสวยงามและแสนรู้ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจชนิดนี้ก็มีไม่มาก มีเพียงเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
หนึ่งในนั้นคือนักธุรกิจ หนุ่มตาล วัย 26 ปี ชาวลำปาง ซึ่งชื่นชอบการเลี้ยงนก จึงได้ร่วมกับเพื่อนเพาะเลี้ยงนกขาย ปัจจุบันบริเวณบ้านซึ่งมีพื้นที่กว้างและห่างไกลบ้านเรือนของชาวบ้านทั่วไป ได้ทำเป็นโรงเรือนแบบปิด-ควบคุมแสงเทียบเคียงกับแสงในธรรมชาติ เพื่อใช้ในการเพาะพันธุ์นก อาหารก็จะเป็นผลไม้อ่อน รสหวาน และ อาหารธัญพืชที่เกรดสูง ห้ามไม่ให้อาหารที่ให้พลังงานสูง ไขมันสูง
สำหรับนกแก้วที่เลี้ยงจะเป็นนกตระกูลคอร์นัว เป็นนกสายพันธุ์เล็ก เพาะจำหน่ายขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ อายุประมาณ 3-4 ปี ขณะนี้มีประมาณกว่า 100 คู่ จำหน่ายอยู่ที่คู่ละ 11,000-12,000 บาท ซึ่งถือว่าราคาลดลงจากเดิม
ส่วนนกแก้วตระกูลไคท์จะผสมพันธุ์และให้ไข่เมื่อได้รับแสง ประมาณ 13 ชั่วโมงต่อวันดังนั้นถ้าเราเปิดไฟวันละ 13 ชั่วโมง นกสามารถให้ลูกได้ตลอดปี ที่เลี้ยงคือ ไวท์บิลลี่ไคท์ จำหน่ายคู่ละ 100,000 กว่า แบล็คเฮดไคท์ คู่ละ 70,000 บาท นอกจากนี้ยังมีนกใหญ่ มาคอร์หรือนกแก้วอเมซอน คู่ละ 4 แสนกว่า ไข่จำหน่ายใบละ 15,000 บาท
หนุ่มตาล บอกว่าการที่หันมาทำธุรกิจเพาะพันธุ์นกแก้ว ทั้งคอร์นัว และ มาคอร์ ไคท์ ถือเป็นธุรกิจที่มีคนทำน้อยแม้จะลงทุนสูง แต่ราคาขายก็สูงเช่นเดียวกัน เพราะลูกค้าก็จะมีเฉพาะกลุ่ม ไม่ต้องเร่ขาย และไม่ถูกกดราคา ลูกค้าที่สนใจจะไม่เกี่ยงเรื่องราคาขอให้ถูกใจ ก็ขายได้แล้ว
“เทียบกับการขายที่ดิน ขายนกง่ายกว่า บางครั้งนกราคาหลักล้านหากลูกค้าสนใจไม่มีต่อราคาเลยแม้แต่คำเดียว”