xs
xsm
sm
md
lg

ทีมนักวิจัยไทยถึงขั้วโลกใต้สำรวจน้ำแข็งดูผลกระทบโลกร้อน เตรียมเผยแพร่เป็นสารคดีในวโรกาส 70 พรรษาสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ทีมนักวิจัยไทยถึงแอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้) เริ่มสำรวจพบน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต สาเหตุผลกระทบของโลกร้อน พร้อมเตรียมเผยแพร่งานวิจัยในรูปแบบสารคดี ฉลองปีมหามงคล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพฯ พระชนมายุ 70 พรรษา


ศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ และรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมด้วย ผศ.ดร.สุจารี บุรีกุล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายนิพัธ ปิ่นประดับ จากมหาวิทยาลัยบูรพา และนายภคินัย ยิ้มเจริญ ช่างภาพจากสยามโสภา ได้เดินทางถึงสถานีวิจัยเกรทวอลล์ (Great Wall Station) ที่แอนตาร์กติก เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อสำรวจเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติก ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 29 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์2568 นี้


ศ.ดร.สุชนา เปิดเผยว่า การสำรวจในปีนี้ ทางโครงการฯ ได้ส่งนักวิจัย 3 คน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยบูรพา และช่างภาพ 1 คน เพื่อไปร่วมสำรวจกับคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกแห่งจีน คณะที่ 41 (CHINARE 41) ของสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน (PRIC) โดยเดินทางถึงแอนตาร์กติกเมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเริ่มทำการเก็บตัวอย่างทันที เพื่อศึกษาผลกระทบของขยะทะเล ไมโครพลาสติก และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ที่มีต่อสัตว์ทะเล และระบบนิเวศทางทะเล โดยช่วงสองวันที่ผ่านมา ได้ทำการเก็บตัวอย่างดิน และมูลของแมวน้ำและเพนกวิน รวมทั้งวัดมลพิษทางอากาศของที่บริเวณแอนตาร์ติกด้วย โดยจากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า น้ำแข็งในหลายๆ ที่ของบริเวณแอนตาร์ติกได้ละลายและหายไป เมื่อเทียบกับ 11 ปีที่แล้วที่คณะไทยได้เคยมาทำการสำรวจ ส่วนมลพิษทางอากาศ ค่าที่ตรวจวัดได้พบว่า ที่แอนตาร์ติกอากาศยังบริสุทธิ์มาก เมื่อเทียบกับอากาศบริเวณส่วนอื่นๆของโลก นอกจากนี้ยังได้เริ่มเก็บตัวอย่างดินตะกอน เพื่อขยายผลศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติก พบว่า ปีนี้น้ำแข็งละลายมากกว่าปีก่อนๆ อย่างน่าตกใจ


“การเดินทางมาครั้งนี้ เป็นไปตามความคาดหมายที่คิดว่าโลกร้อนน่าจะมีพบกระทบอย่างมากต่อน้ำแข็งและหิมะที่นี้ แต่ก็ต้องตกใจเช่นกัน ที่เห็นน้ำแข็งและหิมะหายไปในหลายๆ พื้นที่ นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ ถึงแม้จะมีหิมะตก แต่เมื่อหิมะเหล่านั้นตกถึงพื้น ก็จะละลายกลายเป็นน้ำ นั้นแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิบริเวณแอนตาร์กติกสูงขึ้นกว่าปกติ ทำให้หิมะที่ตกมาละลายกลายเป็นน้ำทันที หลังจากนี้ นักวิจัยก็จะเริ่มทำการเก็บตัวอย่างมูลของเพนกวิน และแมวน้ำ เพื่อมาวัดปริมาณของมลพิษต่างๆ รวมทั้งจุลินทรีย์ในมูล เพื่อดูว่าสัตว์เหล่านั้นได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนหรือไม่” ศ.ดร.สุชนากล่าว


ศ.ดร.สุชนา เปิดเผยอีกว่า การเดินทางเข้าร่วมการวิจัยกับคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกแห่งจีนครั้งนี้ นอกจากตนเองเป็นหัวหน้าทีมแล้ว ยังมี ผศ.ดร.สุจารี บุรีกุล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายนิพัธ ปิ่นประดับ จากมหาวิทยาลัยบูรพา และนายภคินัย ยิ้มเจริญ ช่างภาพจากสยามโสภา ได้เดินทางมากับทีมไทยด้วย นอกจากจะทำการวิจัยแล้ว จะมีการเก็บภาพและวิดิโอ เพื่อใช้ในการจัดทำหนังสือและสารคดีเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยขั้วโลกของไทย เนื่องในโอกาสปี 2568 นี้ เป็นปีมหามงคล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 70 พรรษา พร้อมทั้งเป็นการครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น