ผู้เสียหายหุ้นกู้ " Stark " คัดค้านอดีตภรรยา "วนรัชต์" ขอปลดอายัดทรัพท์ อ้างเหตุหย่า จึงเป็นสินสมรสที่ภรรยาจะต้องได้ครึ่งหนึ่ง ชี้ข้อเท็จจริงยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ทรัพยสินควรจะนำมาเยียวยาให้ผู้เสียหาย
วันนี้( 3 ม.ค.)ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอให้ปลดการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ จากคดีล้มละลายที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกู้ Stark โดยมีตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากหุ้นกู้ Stark จำนวน 50 คน และนายจิณณะ แย้มอ่วมทนายความของกลุ่มผู้เสียหายเข้าฟังการไต่สวน
นายจิณณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้อดีตภรรยาของนายวนรัชต์จะเข้ามารับฟังการไต่สวนขอให้ปลดทรัพย์ที่ทางอัยการขอให้มีการอายัดไว้ชั่วคราวเนื่องจากมีการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว กลุ่มตัวแทนผู้เสียหายจึงมีความคิดในการขอคัดค้านการปลดการอายัดทรัพย์ในครั้งนี้ เพราะว่าทรัพย์สินทั้งหมดที่มีชื่อนายวนรัชต์เป็นเจ้าของจำเป็นที่จะต้องมีการอายัดเอาไว้เพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายในคดีนี้
เมื่อถามว่าเหตุที่ฝั่งนายวนรัชต์จะขอปลดการอายัดทรัพย์ครั้งนี้เพราะอะไร นายจิณณะ กล่าวว่า เหตุผลที่ทางฝ่ายของนายวนรัชต์อ้างให้ปลดการอายัดทรัพย์ เป็นเหตุที่นายวนรัชต์ได้ฟ้องหย่าที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจากเหตุในคำฟ้องที่ว่านายวนรัชต์ทำให้ครอบครัวของนายวนรัชต์ได้รับความอับอาย แต่ตนมองว่ามีสิ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตุคือคำฟ้องดังกล่าวไม่ได้มีการสืบพยานแต่เป็นการตกลงของทั้งสองฝ่ายที่จะหย่าและแบ่งทรัพย์สิน จึงหมายความว่าข้ออ้างดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ตนและกลุ่มผู้เสียหายจึงมองว่าเป็นการใช้กระบวนการทางกฎหมายที่จะนำมาใช้ในคดีนี้หรือไม่เพื่อขอปลดการอายัดทรัพย์สินบางส่วน ตนยังมองอีกว่าพฤติการณ์แบบนี้ไม่น่าจะถูกต้อง
เมื่อถามว่าเพราะเหตุใดศาลเยาวชนและครอบครัวจึงอนุญาตให้นายวนรัชต์หย่ากับภรรยาของตนเอง นายจิณณะ กล่าวอีกว่า เหตุที่ศาลเยาวชนและครอบครัวอนุญาตให้หย่าเพราะเป็นไปตามคำยอมคือภรรยาและสามีตกลงคำยอมซึ่งกันและกันและแบ่งสินสมรสกัน จึงไม่ใช่คำพิพากษาที่พิสูจน์ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ แต่เป็นการตกลงในชั้นศาลเท่านั้น
เมื่อถามว่าทรัพย์สินของนายวนรัชต์ที่ถูกอายัดไว้มีมูลค่าเท่าไหร่ นายจิณณะ กล่าวอีกว่า ตนทราบว่าทรัพย์สินที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อายัดเอาไว้และหมดระยะเวลาอายัดตามที่กฎหมายกำหนดและจะต้องให้อัยการเป็นผู้อายัดทรัพย์ดังกล่าวเบื้องต้นทราบว่ามีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาทโดยมีทั้งส่วนที่เป็นหุ้นและส่วนที่อาจจะเป็นเงินในบัญชีด้วย แต่ตนยังตั้งขอสังเกตอีกอย่างนึงคือ ทรัพย์สินที่เป็นสินสมรสไม่ใช่เฉพาะชื่อของนายวนรัชต์แต่ต้องรวมไปถึงชื่อที่อยู่ในภรรยาของนายวนรัชต์เองด้วย ตรงส่วนนี้ต้องมีการแสดงให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้อื่นทราบแล้วหรือยังว่าทรัพย์สินที่เป็นชื่อของภรรยามีส่วนไหนบ้างที่อัยการและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดสามารถอายัดได้บ้าง ตนจึงมองว่าถ้าจะแสดงความบริสุทธิ์ใจภรรยาของนายวนรัชต์จะต้องเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้ให้ชัดเจนด้วย
นายจิณณะกล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ในวันนี้กลุ่มผู้เสียหายจึงอยากมาแสดงพลังให้หน่วยงานของรัฐเห็นว่า กลุ่มของพวกเขาไม่เห้นด้วยที่จะมีการให้ปลดอายัดทรัพย์และสนับสนุนในกรณีที่ฝ่ายอัยการมีความเห็นคัดค้านการปลดอายัดทรัพย์ และผู้เสียหายบางคนต้องการที่จะเข้ามาเพื่อเป็นพยานจำนวน 2 ปาก เพื่อชี้แจงว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ควรปลดการอายัดทรัพย์ในครั้งนี้และควรที่จะอายัดทรัพย์ต่อไปเพื่อผู้เสียหายจะมีโอกาสได้รับเงินเยียวยาด้วย