เปิดเอกสารชัดเจน ใครเกียร์ว่างไม่ตัดไฟ แก๊งคอลเซ็นเตอร์
กลายเป็นวิวาทะหลักของสังคมถึงข้อคำถามที่ว่าทำไมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไม่หยุดการจ่ายไฟไปพื้นที่เมียนมาที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย เพื่อเป็นการตัดตอนการทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกิจการกฟภ. ยืนยันว่าพร้อมดำเนินการทันที เพราะที่ผ่านมาได้เคยมีหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบกลับมา
จากประเด็นดังกล่าวทำให้มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กฟภ. เคยทำเรื่องขอความอนุเคราะห์พิจารณาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคงของประเทศรวมทั้งพิจารณาผลกระทบ และเตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีการระงับการให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าข้ามพรมแดนผ่านหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ อาทิ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นต้น
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 กฟภ. ยังได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์พิจารณาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของประเทศกรณีการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศไทย และใกล้เคียง ถึงผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก(ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา อ.แม่สาย) และยังส่งหนังสืออีกฉบับถึงอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ เรื่องขอความอนุเคราะห์ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐแห่ง สหภาพเมียนมา กำหนดมาตรการควบคุมกำกับดูแลการซื้อขายไฟฟ้า ณ จุดซื้อขายบริเวณบ้านวังผา อ.แม่ระมาด จ.ตาก ประเทศไทย – บ้านก๊กโก่ อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมา
วันที่ 17 ธันวาคม 2567 กฟภ. ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ เรื่องขอความอนุเคราะห์ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กำหนดมาตรการควบคุมกำกับดูแลการซื้อขายไฟฟ้า ณ จุดซื้อขายบริเวณสะพานมิตรภาพ และบ้านเมืองแดง อ.แม่สาย จ.เชียงราย – อ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมา
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 กฟภ. ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) , เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอความอนุเคราะห์พิจารณาตรวจสอบบริษัทผู้ขอซื้อไฟฟ้า และกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท โดยมีประเด็นเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติด และกระบวนการฟอกเงินของผู้ได้รับสัมปทาน รวมถึงประเด็นความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของประเทศ แต่ทั้งหมดก็ยังไม่ได้รับคำตอบ
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยข้อมูลที่ได้รับเพิ่มเติม 2 เรื่อง กรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า บริเวณชเวก๊กโก และเคเคปาร์ค ได้มีการตัดไฟแล้ว แต่ได้เห็นหนังสือของหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งเป็นหนังสือจากรัฐบาลเมียนมา เพื่อขอให้ต่อไฟสองจุดดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งประเทศไทยยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะต่อหรือไม่ แต่หากมีการต่อสัญญา ก็คือการต่อไฟฟ้าสายตรงเข้าสู่แก๊งค์สแกมเมอร์ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับความชัดเจนว่า จะรออะไร ทำไมถึงไม่ปฏิเสธทันที
“ผมคาดหวังมาก ว่าท่านอนุทิน จะช่วยทำหน้าที่ของตัวเอง วันนี้ไม่ต้องถามลิงที่ไหน ถ้าท่านมีตา อ่านข่าว เห็นข้อมูลจากหลายส่วน ผมคิดว่าเราสามารถตัดไฟได้เลย ไม่ต้องโยนไปให้ใคร เป็นอำนาจของท่านที่สามารถดำเนินการได้เลย แต่หากท่านยังยืนยันว่าต้องมีคนมาสั่ง ท่านนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้บังคับบัญชา ก็ช่วยสั่งการท่านอนุทินหน่อย ผมยังไม่เข้าใจว่า ท่านอนุทินจจะรอให้ใครสั่งทำไม แต่ถ้าจะต้องการคนสั่งขนาดนี้ ก็ช่วยสั่งเขาไปหน่อย” นายรังสิมันต์ กล่าว