xs
xsm
sm
md
lg

ทำไม AI จีนโหมหนักมาก? เร่งเครื่องเต็มกำลัง โลกคลั่ง-สั่นสะเทือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ตะลึงหนักมากทำไมปี 2025 จึงเป็นปีที่อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีนแย่งแสงจากตลาดโลกมาได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เห็นได้จากการพัฒนาก้าวกระโดดจากบริการชั้นนำสัญชาติจีนทั้ง DeepSeek, Alibaba และ Tiktok ซึ่งทำให้เกิดทั้งความภาคภูมิใจและความคาดหวังว่าจีนจะสามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ได้อย่างสูสี

ความสำเร็จของ AI มังกรแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจีนในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ขั้นสูง แม้จะเผชิญกับมาตรการควบคุมการส่งออกชิปประมวลผลจากสหรัฐฯ โดยบริษัทสามารถสร้างระบบ AI ที่มีความสามารถทัดเทียมยักษ์ใหญ่ แต่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าและมีต้นทุนต่ำกว่ามาก ซึ่งล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมว่าแล้วว่าความสำเร็จของ AI จีน ควรเป็นแรงกระตุ้นให้บริษัทอเมริกันพัฒนาตัวเอง และเป็นเรื่องดีที่บริษัทจีนสามารถคิดค้นวิธีการใหม่ในการพัฒนา AI ที่เร็วและประหยัดกว่า

ปรากฏการณ์ครั้งนี้สร้างความภาคภูมิใจให้กับประชาชนจีนจำนวนมาก แม้แต่สำนักงานภาครัฐก็ร่วมหน้าบานไปด้วย ตัวอย่างเช่น สำนักงานสื่อสารมวลชนของมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ DeepSeek ได้เผยแพร่บทความยาวแสดงความชื่นชมความสำเร็จของบริษัท แต่เตือนให้ระมัดระวังการแสดงความรู้สึกสุดโต่งทั้งในแง่บวกและลบ พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมีเหตุผล

***จีนภูมิใจ อเมริกันเซ็ง

การเติบโตของ AI ในจีนไม่ได้จำกัดแค่ DeepSeek ที่เพิ่งเป็นข่าวดังช่วงตรุษจีน แต่ยังรวมไปถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba และ Tiktok ที่ต่างพัฒนาโมเดล AI ของตนเอง

DeepSeek หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัปด้าน AI ของจีนที่เปิดตัวผู้ช่วย AI ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าคู่แข่งในตลาด
อย่างที่เรารู้กัน DeepSeek หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัปด้าน AI ของจีนที่เปิดตัวผู้ช่วย AI ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าคู่แข่งในตลาดทำให้แอปพลิเคชันของ DeepSeek ได้รับความนิยมจนสามารถแซงหน้าการดาวน์โหลดของ ChatGPT บน App Store ได้อย่างรวดเร็ว ผลปรากฏว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันของบริษัท AI สัญชาติอเมริกัน เช่น Microsoft และ Nvidia
สื่อจีนและประชาชนทั่วไปต่างแสดงความยินดี โดยมองว่าความสำเร็จของ DeepSeek เป็นสัญญาณว่าจีนสามารถต้านทานการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้สำเร็จเรื่องนี้เห็นชัดจากข้อความที่มาจากแถลงการณ์ของรัฐบาลท้องถิ่นมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของ DeepSeek ที่ระบุว่า "พระจันทร์ที่อยู่ต่างแดนไม่ได้กลมกว่าที่จีน" เพื่อสะท้อนว่าประเทศจีนสามารถสร้างนวัตกรรมที่เทียบเท่าหรือดียิ่งกว่าตะวันตก

ล่าสุด Alibaba ได้เปิดตัว Qwen 2.5-Max โมเดลปัญญาประดิษฐ์ซึ่งบริษัทอ้างว่าสามารถแซงหน้า DeepSeek-V3 รวมถึง GPT-4o ของ OpenAI และ Llama-3.1-405B ของ Meta ได้ในหลายเกณฑ์วัดประสิทธิภาพ โมเดลใหม่ของ Alibaba ถูกเปิดตัวในวันตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว สะท้อนถึงแรงกดดันจากความสำเร็จของ DeepSeek ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อตลาดโลก แต่ยังทำให้การแข่งขันภายในจีนเองดุเดือดยิ่งขึ้น

Alibaba ได้เปิดตัว Qwen 2.5-Max โมเดลปัญญาประดิษฐ์ซึ่งบริษัทอ้างว่าสามารถแซงหน้า DeepSeek-V3 รวมถึง GPT-4o ของ OpenAI และ Llama-3.1-405B ของ Meta ได้ในหลายเกณฑ์
ไม่เพียงแค่ Alibaba เท่านั้น ByteDance เจ้าของ TikTok ก็ไม่ยอมน้อยหน้า โดยได้อัปเกรดโมเดล AI หลักของบริษัททันทีภายใน 2 วันหลังจาก DeepSeek ปล่อยโมเดล R1 และอ้างว่าประสิทธิภาพของ AI ตัวใหม่สามารถเอาชนะ OpenAI รุ่น o1 ในการทดสอบ AIME ได้ ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงในอุตสาหกรรม AI ของจีน


ในจีน กระแส AI ได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้รับงบประมาณสนับสนุนมหาศาลจากรัฐบาล ขณะที่ประชาชนจีนเองก็แสดงความภาคภูมิใจที่บริษัทของประเทศสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ความรู้สึกนี้ทำให้หลายฝ่ายนึกเชื่อมโยงถึงเหตุการณ์ครั้งที่ Huawei สามารถพัฒนา Mate 60 Pro ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

ความสำเร็จของ DeepSeek ถูกโยงกับช่วงเวลาที่ Huawei สามารถพัฒนา Mate 60 Pro ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI อย่างรวดเร็วของจีนยังสร้างความกังวลในบางภาคส่วนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านจริยธรรมและความมั่นคงของข้อมูล เนื่องจาก AI มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ

***ลอกมา หรือวิวัฒนาการตามธรรมชาติ?

ขณะที่จีนเฉลิมฉลองความสำเร็จของ AI ฝั่งสหรัฐฯ กลับมองว่านี่อาจเป็นผลมาจากการลอกเลียนแบบเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน

บริษัท OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ได้ออกมาแสดงความกังวลว่าบริษัทจีน เช่น DeepSeek กำลัง "Distill" หรือกลั่นข้อมูลจากโมเดลของ OpenAI เพื่อสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงในต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก

DeepSeek ไม่เพียงพิสูจน์ได้ว่าจีนสามารถพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและราคาถูก แต่ยังยืนยันได้ว่ามาตรการปิดกั้นของสหรัฐฯนั้นล้มเหลว
เดวิด แซคส์ (David Sacks) ที่ปรึกษาด้าน AI ของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ามีหลักฐานชัดเจนว่า DeepSeek ได้ใช้ความรู้จากโมเดลของ OpenAI ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงการใช้งานและอาจเป็นภัยต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรม AI ของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ Microsoft ยังเปิดเผยว่า บริษัทกำลังสืบสวนความเชื่อมโยงของกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ DeepSeek ที่อาจเข้าถึงข้อมูลของ OpenAI โดยไม่ชอบธรรม ความตึงเครียดด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างสหรัฐฯ และจีนจึงเพิ่มสูงขึ้น โดยสหรัฐฯ ต้องการออกมาตรการป้องกันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยี AI ขั้นสูงของบริษัทอเมริกัน

***อนาคตสนุกแน่


ในขณะที่ AI จีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญคือสหรัฐฯ จะรับมือกับการแข่งขันนี้อย่างไร การที่จีนสามารถพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและราคาถูก อาจส่งผลให้บริษัทอเมริกันต้องเร่งปรับตัวและสร้างนวัตกรรมที่แตกต่างออกไป

การแข่งขันระหว่าง AI จีนและสหรัฐฯ จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคโนโลยี แต่ยังเป็นสงครามเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่มีเดิมพันสูง อนาคตของ AI โลกจะถูกกำหนดโดยว่าสองมหาอำนาจนี้จะเลือกแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ หรือใช้มาตรการตอบโต้กันแบบเข้มข้นขึ้นไปอีก

ไม่ว่าอย่างไร หมัดนี้ของจีนก็สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศ และแสดงให้เห็นว่าจีนมีศักยภาพในการแข่งขันกับบริษัทชั้นนำระดับโลกในด้าน AI ได้อย่างเต็มภาคภูมิ.

กำลังโหลดความคิดเห็น