เอเจนซีส์ - เมืองโอตารุของ จ.ฮอกไกโดเริ่มตั้งแต่วันอังคาร (28 ม.ค.) ส่งทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตั้งแต่เวลา 10.00 น.ไปจนถึงเวลา 16.00 น. ของทุกวันไปยังสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเพื่อแก้ปัญหาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติไร้มารยาท และกีดขวางการจราจรหลังการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวจีนหลังยืนอยู่บนรางรถไฟถ่ายเซลฟี่วิวสวยเพลินจนลืมดูรถไฟ
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันพุธ (29 ม.ค.) โอตารุชื่อดังของ จ.ฮอกไกโดกำลังประสบปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง หรือ overtourism และปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติกีดขวางการจราจรและเดินบนรางรถไฟเพื่อต้องการได้วิวที่สวยในการถ่ายภาพ ส่งผลทำให้ทางเมืองตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปยังถนน Funami-za ที่มีชื่อเสียงที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมตัวเพื่อถ่ายภาพท่าเรือ และทะเลจากระยะไกล
เกิดขึ้นหลังในเดือนนี้มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนโดนรถไฟทับเสียชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัวหลังกำลังเดินอยู่บนรางรถไฟในโอตารุ สามีของผู้ตายให้การกับตำรวจว่าภรรยาพยายามหาจุดถ่ายภาพจากภาพยนตร์จีนชื่อดังปี 2015 Cities in Love และไม่ได้เห็นรถไฟที่กำลังวิ่งมา
การส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกไปยังเป็นการตอบสนองต่อประชาชนชาวเมืองที่ร้องเรียนปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติพากันยืนปิดกั้นการจราจรถนนสายแคบๆ เพื่อถ่ายภาพที่อยู่ในฉากภาพยนตร์ญี่ปุ่นชื่อดังปี 2015 Love Letter ที่โด่งดังในเกาหลีใต้และจีน
การส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกมาควบคุมความประพฤตินักท่องเที่ยวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นได้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36.7 ล้านคนเดินทางเข้าญี่ปุ่นในปี 2024 และรัฐบาลโตเกียวตั้งเป้าหมายการที่จะเพิ่มไปอยู่ที่ 60 ล้านคนภายในสิ้นทศวรรษ
“ถนนสายนี้ตั้งอยู่มีบ้านเรือนเรียงรายและมีการจราจรหนาแน่น” เจ้าหน้าที่เมืองโอตารุเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ไมอิจิชิมบุน และเสริมว่า “นักท่งอเที่ยวพากันยืนบนถนนหรือเดินแบบแผงหน้ากระดานที่ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่รถราจะสามารถวิ่งผ่านได้ ซึ่งผลกระทบต่อชาวเมืองมีสูงมาก และโดยเฉพาะในปีนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก”
ขณะที่ ฮิเดะโตชิ อิตากิ (Hidetoshi Itagaki) ชาวโอตารุวัย 80 ปี แสดงความเห็นว่า “นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปในสถานที่ส่วนบุคคลบ้านพักโดยไม่ได้ขออนุญาตเพื่อการถ่ายภาพ”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า โอตารุนั้นได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากเสียยิ่งกว่าก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ระบาด เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 98,000 คนพักอยูในเมืองอย่างน้อย 1 คืนในช่วงเวลา 6 เดือนตั้งแต่เมษายนปีที่แล้ว สูงสุดเท่าที่เคยเก็บสถิติมาตั้งแต่ปี 1997 และตัวเลขแท้จริงนั้นคาดว่าจะสูงกว่าจากการที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากอาศัยที่เมืองซับโปโรที่อยู่ใกล้เคียง หนังสือพิมพ์ไมอิจิชี้
ผลจากค่าเงินเยนอ่อนและการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศมาญี่ปุ่น ส่งผลทำให้เกิดการไหลเข้าทางการท่องเที่ยวซึ่งนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เป็นกลุ่มใหญ่อันดับ 1 รองลงมาจาก จีน และอันดับ 3 เป็นนักท่องเที่ยวไต้หวัน