สื่อจีนตีข่าว “หลิวอี้เฟย” ซุ่มเงียบ แอบแต่งงานกับพ่อเลี้ยงมหาเศรษฐี?

เรียกได้ว่าตอนนี้ข่าวลือของ “หลิวอึ้เฟย” นางเอกสาวสวยชื่อดัง ว่อนสะพัดไปทั่ว Weibo ของจีนแล้ว เกี่ยวกับการแต่งงาน ที่กล่าวหาว่าเธอย่องเงียบจดทะเบียนกับพ่อเลี้ยงมหาเศรษฐีที่ดูแลกันมาตั้งแต่เด็ก


สื่อจีนอย่าง Sohu ได้รายงานถึงข่าวลือที่กำลังมาแรงใน Weibo ขณะนี้เกี่ยวกับ หลิวอี้เฟย นางเอกสาวชื่อดัง วัย 37 ปีกับ เฉินจินเฟย มหาเศรษฐีของจีนวัย 63 ปี หลังทั้งคู่กลับมาสนิทกันอีกครั้งช่วงกลางปี 2024 เป็นต้นมาหลังห่างกันไปพักหนึ่ง ถึงขนาดเมาท์กันว่า กลับมาคราวนี้ควงกันไปจดทะเบียนสมรสแล้ว

ตามรายงานระบุว่า พักหลังๆ มักจะเห็น หลิวอี้เฟย กับ เฉินจินเฟย ออกดินเนอร์ด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง และเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจหรือแตกตื่นจนเกินไป พวกเขาหลีกเลี่ยงที่จะแสดงความใกล้ชิดในที่สาธารณะ และมักจะมีผู้ช่วยส่วนตัวของ หลิวอี้เฟย ปรากฏตัวอยู่ด้วยทุกครั้ง

ข่าวลือเรื่อง หลิวอี้เฟย วางแผนจะแต่งงานกับพ่อทูนหัวมหาเศรษฐี ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางบน Weibo มานานเป็นเวลาหลายปี โดยคนต่างพากันสงสัยว่า เฉินจินเฟย ผู้สนับสนุน หลิวอี้เฟย มาตลอดนั้นเป็นมากกว่าพ่อทูนหัวหรือไม่?

ล่าสุด สื่อจีนไม่รอช้า รีบทำการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรวดเร็วทันทีหลังข่าวลือโหมกระพือหนักอีกครั้ง ซึ่งในรายงานสามารถกลบข่าวลือเรื่องการแต่งงานลงได้อย่างรวดเร็ว

ตามรายงานของ 163 News ระบุว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง เรื่องที่ เฉินจินเฟย จะแต่งงานกับ หลิวอี้เฟย หรือใครก็ตามที่เป็นคู่รักของเขานั้นเป็นไปไม่ได้ ซึ่งมีสาเหตุจาก ‘ลูกชาย’ ที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา

โดย เฉินจินเฟย วางแผนมานานแล้วที่จะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาให้กับลูกชายแท้ๆ และเพื่อปกป้องมรดกของลูกชาย เขาจึงมุ่งมั่นที่จะคบใครก็ตามโดยไม่แต่งงาน แม้กระทั่งตอนที่เขาคบหาดูใจกับนักแสดงสาว ’หยางไช่หยู‘ วัย 32 ปีอย่างเปิดเผยและคิดจะมอบสถานะแฟนสาวให้เธอ เขาก็ยังเลิกราทันที เมื่อเธอเร่งรัดที่จะแต่งงานกับเขา

ในส่วนของ หลิวอี้เฟย รายงานระบุว่าความสัมพันธ์เดิมของพวกเขาถูกจัดว่าเป็นไปเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน เฉินจินเฟย เป็นนักธุรกิจที่ชาญฉลาด มักมองว่า หลิวอี้เฟย เป็นลูกบุญธรรมที่ทรงคุณค่าที่สุดของเขาสำหรับวงการบันเทิง

เมื่อธุรกิจของเขาเริ่มมีแนวโน้มถดถอย เฉินจินเฟย จึงหวนคืนมาพบกับ หลิวอี้เฟย ในปี 2021 เพื่อหวังฟื้นฟูบริษัท Hongxing Management ของเขาขึ้นมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาได้ห่างเหินจาก หลิวอี้เฟย เพื่อมุ่งเน้นไปที่การซัพพอร์ต หยางไช่หยู แฟนสาวรุ่นลูก

ภายใต้การสนับสนุนของ เฉินจินเฟย ส่งให้เส้นทางในวงการบันเทิงของ หลิวอี้เฟย ก็กลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเธอได้เซ็นสัญญากับแบรนด์ดังระดับโลกในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ และได้รับโปรเจ็กต์ซีรีส์คุณภาพสูง

เรียกได้ว่าอำนาจเงินของ เฉินจิงเฟย มีไม่น้อย เพราะเขาเป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ที่ร่ำรวย ในช่วงปี 2000 โดยเป็นเจ้าของบริษัทถึง 20 แห่ง ซึ่งมีมูลค่ารวม 266 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,960 ล้านบาท

เขามักปรากฎตัวในรายชื่อมหาเศรษฐีของนิตยสาร Forbes China โดยมีทรัพย์สินสุทธิประมาณ 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (2.8 แสนล้านบาท) แค่เฉพาะ Beijing Tongchan Investment Group ของเขาก็มีมูลค่ามากกว่า 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ( 8.7 หมื่นล้านบาท) แล้ว

เฉินจินเฟย จึงเปรียบเป็นบุคคลสำคัญในชีวิตและอาชีพการงานของ หลิวอี้เฟย เขาได้เป็นพ่อทูนหัวของ หลิวอี้เฟย เมื่อเธออายุได้ 5 ขวบ และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของเธอ

เมื่ออายุได้ 13 ปี เขาพาเธอกลับจีนและปูทางให้เธอเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยความมั่งคั่งและเส้นสายของเขา เขาได้ช่วยให้ หลิวอี้เฟย ได้รับบทบาทสำคัญตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี โดยข้ามขั้นตอนจากนักแสดงคนอื่นๆที่ต้องเริ่มจากบทเล็กๆ หรือตัวประกอบ

โปรเจ็กต์เด่นๆ ส่วนใหญ่ของ หลิวอี้เฟย เช่น ภาพยนตร์ฮิตเรื่องล่าสุดอย่าง “The Tale of Rose” ก็ได้รับทุนสนับสนุนจาก เฉินจินเฟย พ่อทูนหัวมาใช้ในการผลิต

อย่างไรก็ตามการใช้เส้นสายและการสนับสนุนจากพ่อทูนหัวอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ตำแหน่ง “เทพธิดานางฟ้า” แห่งวงการบันเทิงจีนของ หลิวอี้เฟย ต้องมัวหมองลง เพราะภาพลักษณ์ที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเธอเริ่มไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป ความลำเอียงอย่างเปิดเผยของ เฉินจินเฟย ที่มีต่อ หลิวอี้เฟย ได้กลายมาเป็นความหมั่นไส้ของชาวเน็ต และเป็นตัวจุดชนวนข่าวลือความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยระหว่างทั้งคู่จนบานปลายมาถึงข่าวลือเรื่องแต่งงานที่กำลังเมาท์สนั่นกันอยู่ในขณะนี้นั่นเอง