เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน วันจันทร์(20 ม.ค)เดินหน้าลงนามสั่งอภัยโทษศัตรูทางการเมืองทรัมป์ รวมอดีตประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯ พลเอกมาร์ค มิลลีย์ อดีตหมอใหญ่ทำเนียบขาว แอนโทนี เฟาซี มือปราบโควิด-19ของอเมริกา คณะสอบสวนกบฎบุกรัฐสภาสหรัฐฯ 6 ม.ค รวม ลิซ เชนีย์ ลูกสาวอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยบูชคนลูก ดิก เชนีย์ หลังว่าที่ผู้นำคนใหม่เปิดรายชื่อแบล็กลิสต์เตรียมเช็กบิลล่าแม่มด
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้(20 ม.ค)ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เลือกใช้อำนาจผู้นำสหรัฐฯไม่กี่ชั่วโมงก่อนคู่แข่ง โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนในเวลาราวเที่ยงของวันเดียวกัน(20) ประกาศอภัยโทษปรปักษ์ของทรัมป์ ตั้งแต่อดีตประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯ พลเอกมาร์ค มิลลีย์ อดีตหมอใหญ่ทำเนียบขาว แอนโทนี เฟาซี คณะสอบสวนกบฎบุกรัฐสภาสหรัฐฯ 6 ม.ค รวม ลิซ เชนีย์ ลูกสาวอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยบูชคนลูก ดิก เชนีย์
ไบเดนแถลงว่า คนเหล่านี้ไม่สมควรต้องตกเป็นเป้าอย่างไม่ชอบธรรมและการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง
เกิดขึ้นหลังทรัมป์ได้ประกาศรายชื่อศัตรูทางการเมืองของเขา รวมไปถึงกลุ่มที่สอบสวนเหตุการณ์กบฏบุกรัฐสภาสหรัฐฯวันที่ 6 ม.ค ปี 2021เพื่อต้องการเปลี่ยนผลการเลือกตั้ง
แอกซิออส(Axios)ของสหรัฐฯชี้ว่า รายชื่อคนที่ถูกว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะสาบานตนและตามเช็กบิลรวมถึง อดีตหมอใหญ่ประจำทำเนียบขาว ดร.แอนโทนี เฟาซี เป็นผู้นำสหรัฐฯฝ่าวิกฤตโควิด-19มาได้สำเร็จ แต่ทว่ากลับโดนทรัมป์โจมตีอย่างหนัก
อดีตประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ มาร์ค มิลลีย์ ที่เคยโทรศัพท์ไปยังปักกิ่งเพื่อรับรองหลังทรัมปฎิเสธไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และเกิดเหตุการณ์บุกรัฐสภาสหรัฐฯในวันที่ 6 ม.ค ปี 2021 และ
อ้างอิงจากบีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 16 ก.ย ปี 2021 ในการโทรศัพท์ลับมิลลีย์แจ้งผู้นำสูงสุดกองทัพปักกิ่งว่า "รัฐบาลอเมริกันมีเสถียรภาพ" พร้อมรับรองว่า สหรัฐฯจะไม่โจมตีจีน และหากว่าเกิดขึ้นฝ่ายจีนจะได้รับการแจ้งเตือนก่อน"
มิลลีย์ได้เคยออกคำเตือนเกี่ยวกับทรัมป์และเรียกทรัมป์ว่า เป็น “ฟาสต์ซิสต์” และ “พวกอยากเป็นเผด็จการ” เขายังเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับทรัมป์ระหว่างผู้สนับสนุนของตัวเองบุกรัฐสภาสหรัฐฯ
เดอะการ์เดียนอ้าง CNN ของสหรัฐฯว่า หลังจากที่เขารู้ว่าตัวเองได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดีไบเดนว่า
“เขารู้สึกซาบซึ้งอย่างลึกซึ้งต่อการกระทำของไบเดน “หลังจากการรับใช้ชาติอย่างซื่อสัตย์มานานถึง 43 ปีในเครื่องแบบต่อประเทศสหรัฐอเมริกาของพวกเรา การปกป้องและการป้องกันรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ผมไม่มีความปราถนาที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานผมในการต่อสู้ต่อพวกคนที่อาจต้องการล้างแค้นสำหรับสิ่งที่คิดไปเองว่าโดนดูหมิ่น”
และนอกจากนี้พบว่า ในรายชื่อที่ได้รับการอภัยโทษรรวมไปถึงคณะสอบสวนเหตุการ์ณ์กบฎบุกรัฐสภาสหรัฐฯ 6 ม.ค โดยมีผู้นำได้แก่ ลิซ เชนี(Liz Cheney) ที่ออกมาวิจาณ์ทรัมป์จนโดนขับออกจากพรรครีพับลิกัน
ลิซ เชนีย์เป็นบุตรสาวอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดิก เชนีย์ในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอร์จ ดับเบิลยู บูช อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัยคอร์เนล คอร์เนล เดลี ซัน รายงานเมื่อวันที่ 2 พ.ค 2018 ดิก เชนีย์ได้ออกมาแสดงความวิตกถึงรัฐบาลทรัมป์ในเวลานั้น ว่าจะไม่มีความสามารถในการรับมือปัญหาความมั่นคงสหรัฐฯได้
เชนีย์ขึ้นปาถกเป็นวิทยากรที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล และเขาได้เปิดเผยการตัดสินใจเกี่ยวกับสงครามอิรักของสหรัฐฯที่เขาเกี่ยวข้องโดยตรงร่วมกับอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บูช ว่า
“พวกเราเปลี่ยนรัฐบาลในอิรักจริง” เชนีย์กล่าว
และเสริมว่า “พวกเราเข้าไป พวกเราโค่นซัดดัม ฮุสเซน (อดีตประธานาธิบดีอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน) ผมคิดว่าโลกคงจะดีขึ้นหากไม่มีซัดดัมอยู่ในนั้น ผมคิดว่าประธานาธิบดีมีความชอบธรรมทั้งหมดที่เขาจำเป็นต้องมี”
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้เคยข่มขู่ว่าทั้ง ลูกสาวเชนีย์และคนอื่นๆในคณะสอบสวน 6 ม.ค สมควรต้องเข้าคุก