xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เอาแล้ว! เมตา-แอมะซอนเข็ดหลาบพวก WOKE เลิกจ้างงานภายใต้หลักการ DEI

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เมตาและแอมะซอน กำลังหั่นโครงการความหลากหลายภายในบริษัท กลายเป็น 2 บริษัทล่าสุดในธุรกิจต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ที่ถอยห่างจากนโยบายจ้างงานและฝึกอบรม ตามหลักการ "ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกัน (Diversity, Equity, and Inclusion หรือ DEI)" ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางโดยพวกอนุรักษนิยม อ้างความเสี่ยงทั้งทางกฎหมายและทางการเมือง

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นไม่กี่วัน หลังจาก เมตา แพลตฟอร์มส์ เจ้าของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมและ WhatsApp เปิดเผยว่า พวกเขาจะยุติโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริง fact-checking หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกัน

ในบันทึกที่แจ้งถึงพนักงานเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งมีผลครอบคลุมทั้งการจ้างงาน ซัปพลายเออร์และการฝึกอบรม ทาง เมตา อ้างถึงการเปลี่ยนไปในแง่ของกฎหมายและภูมิทัศน์ทางการเมือง "เงื่อนไขของ DEI เปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบางส่วนตระหนักแล้วว่า มันเป็นแนวทางปฏิบัติที่บ่งชี้ถึงการให้สิทธิพิเศษแก่คนบางกลุ่มเหนือคนอื่นๆ" พร้อมระบุว่า "ในแง่การจ้างงาน เราจะยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สมัครจากภูมิหลังที่หลากหลาย แต่หยุดใช้แนวทาง Diverse Slate Approach (การพิจารณาผู้สมัครจากกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติหรือเพศสำหรับตำแหน่งงานว่าง)"

ขณะเดียวกัน บริษัทจะเปลี่ยนแปลงโปรแกรมฝึกอบรมด้านความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วม โดยโปรแกรมใหม่จะเน้นไปที่การสร้างแนวทางที่เป็นธรรมและปราศจากอคติสำหรับทุกคน โดยไม่ยึดตามภูมิหลังเฉพาะของบุคคล

ก่อนหน้านี้ บริษัทอื่นๆ หลายแห่ง ในนั้นรวมถึง วอลมาร์ท และแมคโดนัลด์ ก็ทำการตัดสินใจแบบเดียวกัน ในเรื่องของความพยายามยอมรับความหลากหลาย นับตั้งแต่ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน

บันทึกที่แจ้งกับพนักงาน ซึ่งรายงานโดยเว็บไซต์ข่าว Axios เป็นแห่งแรกและยืนยันโดยบีบีซี ทาง เมตา อ้างคำพิพากษาของศาลสูงแห่งหนึ่ง ที่ปัดตกการให้สิทธิพิเศษเฉพาะกลุ่มเชื้อชาติ สมัครเรียนมหาวิทยาลัย พร้อมกับเน้นว่าคำจำกัดความของ DEI ได้เปลี่ยนไปแล้ว

ศาลสูงสหรัฐฯ มีคำตัดสินปฏิเสธการใช้กฎเกณฑ์การยืนยันสิทธิ (affirmative action) ในการสมัครเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกา โดยระบุว่า การใช้เชื้อชาติเป็นปัจจัยในการตัดสินว่าใครควรเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นถือเป็นสิ่งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญของประเทศ

ในส่วนของ เมตา พวกเขาบอกว่าจะเดินหน้ามองหน้าพนักงานที่มีความหลากหลายต่อไป แต่จะยุติแนวทางปฏิบัติในปัจจุบัน ซึ่งทำการเลือกจากกลุ่มผู้สมัครที่หลากหลาย ขณะที่ แอมะซอน ระบุในบันทึกที่แจ้งไปยังพนักงานเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ว่าทางบริษัท "กำลังค่อยๆ ลดระดับโครงการและหลักการที่เก่าเก็บล้าสมัย และมีเป้าหมายเสร็จสิ้นกระบวนการในภายในปี 2024

ทาง เจพีมอร์แกน เชส และแบล็คร็อค 2 สถาบันการเงิน ได้ถอนตัวออกจากโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นความเสี่ยงจากภาวะโลกร้อนและความไม่เท่าเทียมเช่นกันในสัปดาห์นี้

ความเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ เป็นสัญญาณของการถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากพวกสมาชิกรีพับลิกันยกระดับโจมตีบริษัทต่างๆ อย่างเช่น แบล็คร็อค และดิสนีย์ กล่าวหาทั้ง 2 บริษัทมีคตินิยมหัวคิดก้าวหน้า "woke" และขู่ลงโทษทางการเมือง

เหล่าบริษัทชื่อดังอื่นๆ อย่างเช่น Bud Light และ Target ก็เจอกระแสตีกลับและถูกบอยคอตต์ จากความพยายามใช้นโยบายนี้กับลูกค้า LGBTQ

นโยบายต่างๆ เกี่ยวกับความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกัน ถูกนำมาใช้ตามหลังการประท้วง "ชีวิตคนดำก็มีค่า (Black Lives Matter) ซึ่งปะทุขึ้นในปี 2020 ตามหลังการเสียชีวิตของจอร์จ ฟรอยด์ ชายผิวสี ในเงื้อมมือของตำรวจ

คำตัดสินของศาลเมื่อเร็วๆ นี้ สร้างกำลังใจแก่พวกวิพากษ์วิจารณ์หลักการ DEI ที่บอกว่ามันเท่ากับเป็นการเลือกปฏิบัติ

เมตา เผยด้วยว่าพวกเขากำลังยุติความพยายามทำงานกับเหล่าซัปพลายเออร์ บนพื้นฐานของความหลากหลาย โดยจะหันไปมุ่งเน้นกับเหล่าบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางแทน นอกจากนี้ ยังมีแผนหยุดอบรม "ความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วม" และจะหันมาเริ่มโครงการ "ลดความมีอคติสำหรับทุกกลุ่มแทน โดยไม่สำคัญว่าคุณจะมีภูมิหลังแบบใด"

เมตา ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบันทึกดังกล่าว แต่ข่าวคราวนี้เรียกทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงยินดีปรีดาในทันที

(ที่มา : บีบีซี)
กำลังโหลดความคิดเห็น