xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นปี 2024 ทุบสถิติร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วน "กินซันออนเซ็น" เมืองน้ำพุร้อนชื่อดังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ออกกฎเหล็กต้องซื้อบัตรเข้าเมือง หลังเจอทะเลาะวิวาทแย่งจุดถ่ายเซลฟี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแถลงวันจันทร์ (6 ม.ค.) ว่า ปี 2024 กลายเป็นปีที่ร้อนที่สุดตั้งแต่มีมาตั้งแต่เริ่มต้นมีการบันทึก สอดคล้องกับประเทศอื่นๆ เนื่องมาจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ขณะที่ตั้งแต่วันอังคาร (7 ม.ค.) เมืองน้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะตกชื่อดัง กินซันออนเซ็น ตั้งกฎใหม่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปต้องซื้อบัตรราคา 1,150 เยน หรือ 252 บาทหลังชาวเมืองเอือมปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติทะเลาะแย่งที่ถ่ายรูปเซลฟี่ ไม่เคารพกฎจราจร

เจแปนไทม์สของญี่ปุ่นรายงานวันจันทร์ (6 ม.ค.) ว่า ทั่วโลกแล้วคาดกันว่าปี 2024 ถูกคาดว่าจะเป็นปีที่ร้อนที่สุด ออกมาจากการประกาศสัปดาห์ที่แล้วโดยสำนักงานอากาศและสภาพอากาศของสหประชาชาติ

ทั่วทั้งญี่ปุ่นสภาพอากาศอุณหภูมิโดยเฉลี่ยตั้งแต่มกราคมไปจนถึงธันวาคมอยู่ที่ 1.48 เซลเซียส สูงกว่าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยเมื่อปี 1991-2020 อ้างอิงจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยา

ซึ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่สูงสุดนับตั้งแต่ญี่ปุ่นเริ่มต้นจดบันทึกและเปิดเผยข้อมูลตั้งแต่ปี 1898 และสูงกว่าการบันทึกของปี 2023 ที่มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูงกว่า 1.29 องศาเซลเซียส

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแถลงวันจันทร์ (6) ว่า ในระยะยาว อุณหภูมิญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 1.40 องศาเซลเซียสในทุก 1 ศตวรรษ และได้มีการพบว่าอุณหภูมิสูงอย่างผิดปกติมาตั้งแต่ยุค 90

คาโอรุ ทาคาฮาชิ (Kaoru Takahashi) เจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบด้านข้อมูลพยากรณ์อากาศกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลกเป็น “ปัจจัย”

ขณะเดียวกัน ฤดูร้อนของญี่ปุ่นในปีที่แล้วได้ถูกจัดให้เป็นฤดูร้อนจัดมากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมาเท่ากับฤดูร้อนของญี่ปุ่นปี 2023 ส่วนฤดูใบไม้ผลิของปี 2024 นั้นอบอุ่นมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ญี่ปุ่นกลายเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลกเมื่อหิมะยอดภูเขาไฟฟูจินั้นมาล่าช้ามากที่สุดกว่าปกติถึง 1 เดือน และหลังจากสร้างสถิติหิมะตกช้าที่สุดในรอบ 130 ปีทีเดียว โดยหิมะยอดภูเขาไฟฟูจินั้นเพิ่งปรากฏอีกครั้งเมื่อต้นพฤศจิกายน เมื่อเปรียบเทียบกับตามปกติที่จะปรากฏเมื่อต้นตุลาคม

ภาพภูเขาไฟฟูจิไร้หิมะปกคลุมได้รับความสนใจในโซเชียลมีเดีย ผู้คนต่างโพสต์รูปภาพภูเขาที่โล่งเตียน บางคนแสดงความประหลาดใจ และบางคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นโคฟุ กล่าวว่า สภาพอากาศที่ร้อนจนน่าแปลกใจในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น

ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นในปีที่แล้วจะประสบปัญหาสภาพอากาศร้อนจัดแต่ทว่ายังคงเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงลิ่ว โดยอ้างอิงจากบริษัทการวิจัยและที่ปรึกษาการท่องเที่ยวญี่ปุ่น JTB (Tourism research & counseling Co.) รายงานเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.พบว่า ช่วงระหว่างมกราคม ปี 2024-ตุลาคม ปี 2024 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาญี่ปุ่นราว 30,192,605 คน

และในเดือนตุลาคมพบว่ามีการเดินทางเข้ามา 3,312,000 คน โดยมีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เดินทางเข้ามามากที่สุดที่ 732,100 คน นักท่องเที่ยวจีนสูงเป็นอันดับที่ 2 ที่ 582,800 คน ส่วนไทยมาเป็นอันดับที่ 5 ในการเดินทางเข้าญี่ปุ่นที่ 132,200 คน

CNN ของสหรัฐฯ รายงานวันที่ 27 ธ.ค.ว่า กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) ใน จ.ยามากาตะที่เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเรือนดั้งเดิมเก่าแก่ 300 ปีชวนให้คิดถึงให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันที่มีฉากตระการตาเป็นน้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะขาวโพลนล่าสุดทนพิษยุคนักท่องเที่ยวล้นเมือง (overtourism) ได้สั่งจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไป

กินซันออนเซนตั้งห่างจากทางเหนือของกรุงโตเกียวไปราว 260 ไมล์ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากถึง 330,000 คนในแต่ละปี

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่าเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต้องการเข้าไปยังเมืองน้ำพุร้อนกินซันออนเซ็นหลังเวลา 17.00 น.ต้องจ่ายค่าบัตร อ้างอิงจากศูนย์ข้อมูลกินซันออนเซ็น และนักท่องเที่ยวรายใดที่ไม่มีการบันทึกจองห้องไว้กับโรงแรมในพื้นที่จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปหลังเวลา 20.00 น.

การเปลี่ยนแปลงเกิดจากปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติทะเลาะวิวาทเพื่อให้ได้จุดถ่ายเซลฟี่ที่ดีที่สุด และที่จอดรถสร้างความไม่พอใจให้ชาวบ้านที่อาศัยในเมืองเล็กๆ ที่สงบเงียบ

อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการศูนย์ข้อมูลกินซันออนเซ็นกล่าวว่า “มีแขกเป็นจำนวนมากที่ต่างไม่พอใจ (ตะโกนเสียงดัง) เพื่อให้ได้จุดที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ นำมาสู่ปัญหาการละเมิดกฎจราจร การโกง และทำให้ผู้คนต่างต้องแข่งหาที่ที่ดีกว่าและวิธีที่ง่ายกว่าคนอื่น”

ศูนย์ข้อมูลกินซันออนเซ็นกล่าวเสียใจต่อการบริหารจัดการที่ไม่ชัดเจนจนทำให้เกิดปัญหาต่างๆ

ทั้งนี้ บัตรรวมถึงค่าโดยสารเพื่อเข้าไปในเมืองน้ำพุร้อนชื่อดังจะอยู่ที่ 1,150 เยน หรือ 252 บาท

CNN รายงานว่า ส่วนในกลุ่มนักท่องเที่ยวขับรถไปเองจะกำหนดให้ต้องจอดรถไว้ที่ศูนย์ท่องเที่ยวใกล้เคียงก่อนนั่งรถชัตเติลบัสเข้าไปในเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น