xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อ เดอะ มูนบาร์ร้อง ตร.ไซเบอร์สอบปมถ่ายบัตร ปชช.นำข้อมูลขายแก๊งคอลฯ-เว็บพนัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้ก่อตั้งเพจ “กล้าที่จะก้าว” พากลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ ให้ช่วยตรวจสอบกรณี ร้าน เดอะ มูนบาร์ ถ่ายบัตร ปชช.ลูกค้า เชื่อถูกนำข้อมูลไปขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์-เว็บพนัน

วันนี้ (6 ม.ค.) นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจ “กล้าที่จะก้าว” พากลุ่มผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) ขอให้ตรวจสอบสถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี และผู้เกี่ยวข้องกรณีมีการถ่ายบัตรประชาชน และใบหน้าเจ้าของบัตร โดยเชื่อว่า มีการแอบนำข้อมูลไปขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์

ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า เคยไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งจะถูกถ่ายบัตรประชาชนก่อนเข้าร้านทุกครั้ง ซึ่งไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเห็นลูกค้าทุกคน โดนถ่ายบัตรประชาชนเหมือนกันหมด ตอนนั้นสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นการป้องกันความปลอดภัยของร้าน หากมีการทะเลาะวิวาทภายในร้านทางร้าน จะได้ติดตามตัวหรือให้เบาะแสกับตำรวจได้ แต่ทุกครั้งที่ไปเที่ยว วันรุ่งขึ้นจะมีลิงก์เว็บพนันออนไลน์เด้งเข้ามาผ่านไลน์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนไม่ได้สนใจ เพราะเป็นคนไม่ได้เล่นพนันออนไลน์อยู่แล้ว

กระทั่งมีเพจดังในเฟซบุ๊กแฉว่าร้านดังกล่าว เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ตนจึงมาปะติดปะต่อเรื่อง และสันนิษฐานว่าการที่มีข้อความชักชวนเล่นพนันออนไลน์ อาจมาจากการถูกถ่ายบัตรประชาชนก่อนเข้าสถานบันเทิง วันนี้จึงตัดสินใจมาให้ข้อมูลกับตำรวจไซเบอร์

ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า ตลอด 2 ปี ไปเที่ยวร้านนี้ ก็เห็นว่า มีลูกค้าหลายคนภายในร้านเสพยา ดูออกว่าคนกลุ่มนั้นไม่ได้เมาสุรา บางครั้งเห็นว่าเข้าห้องน้ำกันห้องละ 2-3 คน แต่ไม่ทราบว่าทางร้านขายยาเสพติดให้ลูกค้าหรือไม่ เพราะไม่ได้สนใจ ส่วนเรื่องที่ไปทวงถามโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะมีปากเสียงกับพนักงานรักษาความปลอดภัยภายในร้านและถูกทำร้ายร่างกาย พอตนโพสต์ออกไป ถูกทางร้านและคนที่เห็นด้วยกับทางร้านมาแสดงความคิดเห็นโจมตี ในทางเสียหาย

ด้านผู้เสียหายอีกคนบอกว่า ไม่เคยไปเที่ยวที่ร้านนี้ แต่เป็นเพื่อนสนิทกับผู้เสียหายคนแรก พอมารู้เรื่องว่าเพื่อนของตนถูกทำร้ายร่างกาย จึงสอบถามกับทางร้าน ก็ถูกทางร้านกับคนที่เห็นด้วยกับทางร้านโจมตีผ่านโซเชียล

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า หลังได้รับการประสานข้อมูล จึงสั่งการให้ตรวจสอบทันที ยืนยันว่าหากพยานหลักฐานถึงใคร จะเอาผิดทั้งหมดโดยที่ไม่สนว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น จะเป็นพลเรือนหรือข้าราชการตำรวจระดับสูง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนว่าเป็นไปตามที่กระแสข่าวกล่าวอ้างหรือไม่

ส่วนกรณีทางร้านถ่ายหน้าและบัตรประชาชนของลูกค้าก่อนเข้าร้านนั้น ต้องตรวจสอบว่าทางร้านนำไปปลอมแปลง หรือ ไปทำธุรกรรมอย่างอื่นหรือไม่ หากลูกค้าคนใดกังวลเรื่องความปลอดภัยหรือกังวลว่า จะถูกเอาข้อมูลไปเปิดบัญชีมาก็ให้มาแจ้งความไว้ที่ สภ.บางใหญ่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น