เลขาธิการ สปสช. ระบุ เลื่อนประกาศมะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่ 3 เดือน หลังเจอโรงเรียนแพทย์ขอใบส่งตัวจากสิทธิ์การรักษาโรคมะเร็ง พร้อมตั้งคณะทำงานหารือโครงการ Cancer Anywhere ประชุมนัดแรกหลังปีใหม่ 15 ม.ค. 68 ด้าน รมว.สาธารณสุขเผย เกิดจากค่ารักษาพยาบาลไม่เท่ากัน
วันนี้ (17 ธ.ค.) จากกรณีที่โรงพยาบาลรัฐ ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ประกาศให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ต้องมีหนังสือส่งตัวรับรองค่ารักษาพยาบาลจากหน่วยบริการต้นสังกัดตามสิทธิของตนทุกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประกาศเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข กรณีผู้ป่วยโรคมะเร็ง ตามโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ (Cancer Anywhere) โดยรับผิดชอบเฉพาะค่ายาเคมีบําบัด และฮอร์โมนที่ใช้รักษามะเร็ง รังสีที่ใช้รักษามะเร็ง และค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับยาที่ใช้เท่านั้น โดยไม่ครอบคลุมถึงยาอื่นๆ เช่น ยาความดัน ยาแก้คลื่นไส้ ยาระบาย และไม่รับผิดชอบค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าเอกซเรย์ ค่าตรวจเลือด
ขณะที่ ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เสนอให้ สปสช. และกระทรวงสาธารณสุขยกเลิกนโยบายนี้ กลับไปเป็นระบบเดิม เพราะโรงพยาบาลจังหวัด ศูนย์มะเร็งก็รักษาได้ ถ้าเกินศักยภาพของโรงพยาบาลจังหวัด หรือศูนย์มะเร็ง จึงส่งต่อมารักษาที่โรงเรียนแพทย์ และ สปสช.ควรจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ครบ เนื่องจากจํานวนผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการ Cancer Anywhere เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลสังกัดคณะแพทย์เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนส่งผลเสียต่อระบบการบริการผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกคน ทุกสิทธิการรักษา และผู้ป่วยโรคอื่นๆ ด้วย
โดยที่ผ่านมา สปสช.จ่ายค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเรียกเก็บต่ำมากๆ และมีจํานวนหนึ่งที่ไม่จ่ายเลย ทําให้โรงพยาบาลต้องแบกรับภาระด้านการเงินไม่ไหว เป็นแบบนี้มา 3 ปี ไม่มีการแก้ไข เคยสัญญาว่าจะจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ทําตามสัญญา เมื่อจำนวนผู้ป่วยที่มารับการรักษาจํานวนมาก ส่งผลกระทบต่อการฝึกอบรมแพทย์ประจําบ้าน แพทย์ต่อยอด และนักศึกษาแพทย์ และไม่สามารถให้การรักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานการรักษาที่ควรจะเป็นได้ เนื่องจากเกินกําลังในการให้บริการ
ล่าสุด นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช. ขอยืนยันว่าโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ รวมถึงภาวะแทรกซ้อนและโรคร่วมโรคแทรก ยังมีอยู่ ไม่ได้มีการยกเลิกแต่อย่างใด โดยผู้ป่วยไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว โดยเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. สปสช. ได้หารือร่วมกับผู้บริหารโรงเรียนแพทย์ ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น และมีข้อสรุปร่วมกัน 3 ข้อ คือ สปสช.จะผ่อนผันการบังคับใช้ประกาศมะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่ออกไปก่อน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 31 มี.ค. 2568
ระหว่างนี้ ผู้ป่วยมะเร็งยังคงใช้บริการตามแนวทางมะเร็งรักษาทุกที่เหมือนเดิม โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวเพื่อประกอบการเบิกจ่ายงบประมาณ สปสช. จะจัดสรรงบให้หน่วยบริการโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ส่วนผู้ป่วยที่ทางโรงพยาบาลรับส่งต่อต้องการดูข้อมูลผู้ป่วยสามารถดูผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ TCB Plus และ Health Link เพื่อใช้ลงทะเบียน รับส่งต่อและดูข้อมูลผู้ป่วย ขณะที่หน่วยบริการใช้ระบบการเบิกจ่ายเหมือนเดิม
โดยภายใน 3 เดือนนี้จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อหารือร่วมกันโดยยึดหลักการผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ซึ่งที่ประชุมได้มีมติตั้งคณะทำงานร่วมโดยมอบให้ นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิ์ชัย รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เป็นประธาน ในการหาข้อสรุปประเด็นปัญหาการดำเนินงานโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และวางแผนเสนอการทำโครงการนี้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและหน่วยบริการในอนาคต ทั้งในประเด็น การบริการ ยาที่ใช้ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ งบประมาณ ภาระงานที่เกิดขึ้น รวมถึงการเบิกจ่ายต่างๆ โดยจะมีการสรุปและทำข้อเสนอซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 15 ม.ค. 2568
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ระบุว่า เป็นปัญหาที่โรงเรียนแพทย์กับหน่วยงานของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข บางส่วนค่ารักษาพยาบาลไม่ได้เท่ากัน คณะผู้บริหาร สปสช. จึงพยายามจะปรับให้ค่ารักษาเท่ากันในบางโรค ซึ่งโรงเรียนแพทย์ ให้การรักษาอย่างละเอียด ทําทุกประเด็นทุกมิติ แต่กระทรวงสาธารณสุข ทําการรักษาตามปกติ ตัวเลขค่ารักษาในบางรายการจึงแตกต่างกัน ตอนนี้ยังต้องพูดคุยกันเรื่องใบส่งตัว ซึ่งโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขไม่ต้องมี เพราะเป็นระบบดิจิทัลทุกอย่าง แต่โรงเรียนแพทย์ต้องคุยกันว่าจะทําอย่างไร ส่วนกรณีโรงเรียนแพทย์ประกาศว่าจะเริ่มดำเนินการตามที่ประกาศในวันที่ 1 ม.ค. 2568 ดังนั้นผู้ป่วยมะเร็ง จำเป็นจะต้องไปขอรับใบส่งตัวใช่หรือไม่ ต้องรออีกสักระยะเพราะต้องคุยกัน