นายกรัฐมนตรีแถลงผลงานรอบ 3 เดือน พร้อมเปิด 5 นโยบายปี 68 ทั้งหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน โครงการ SML บ้านเพื่อคนไทย ประเดิมที่ดินรัฐสร้างคอนโดฯ ผ่อนเดือนละ 4,000 อยู่ได้ 99 ปี รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทสำหรับบุคคลทั่วไป และแก้หนี้ครัวเรือน วอนข้าราชการทุกคนคือทีมเดียวกัน ช่วยเหลือประชาชนและผลักดันประเทศชาติ
วันนี้ (12 ธ.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” โดยนำเสนอวีดีทัศน์การทำงานในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ การแก้ปัญหาอุทกภัยภาคเหนือ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ กฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมกับแถลงผลงานและการแก้ปัญหา 11 นโยบาย แบ่งเป็นนโยบายระยะยาว 6 นโยบาย คือ การจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปัญหายาเสพติด การทลายการผูกขาด การแก้ปัญหาธุรกิจนอกระบบ และนโยบายการลงทุนครั้งใหญ่ในอนาคต ส่วนสิ่งที่รัฐบาลจะทำในปี 2568 มอบหมายให้รองนายกฯ รับไปดำเนินการและเป็นนโยบายที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า 5 นโยบาย ประกอบด้วย การแก้ไขหนี้ครัวเรือน ในโครงการคุณสู้เราช่วย โครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุนการศึกษา (ODOS) โครงการ SML นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 90 วันที่ผ่านมาได้ปรับตัวระหว่างตนเอง คณะรัฐมนตรี และข้าราชการ ผ่านแนวทางการทำงานที่อำนวยความสะดวก ตอบโจทย์นโยบายให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้จริง ในฐานะนายกฯ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากที่ได้เข้ามาเรียนรู้และทำเรื่องต่างๆ วันนี้ทีมข้าราชการทั้งหมดคือทีมเดียวกันในการทำงานวางรากฐานที่สำคัญ ในทศวรรษข้างหน้าให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่างที่เคยกล่าวไว้ ต่อจากนี้จะเป็นปีของโอกาสที่จับต้องได้ รัฐบาลจะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม สร้างสิ่งที่คนคิดว่าเป็นความฝันให้เกิดขึ้นจริง ที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ภายใต้ความขัดแย้งทางการเมืองมานานกว่า 20 ปี วันนี้พร้อมเดินต่อไปข้างหน้าแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
โดยปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เหตุการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มทางภาคเหนือที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้เตรียมการเรื่องนี้มาก่อน ไม่มีทุนสำรองมากมายท่ามกลางเศรษฐกิจแบบนี้ รัฐบาลจึงเยียวยาขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เคยถูกแก้อย่างบูรณาการ จากนี้จะต้องมีทางออกที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้งต้องมีน้ำใช้เพียงพอ รวมทั้งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ยังศึกษาแก้กฎหมายอนุญาตให้ประชาชนเอาดินไปขายเพื่อให้เกิดอาชีพใหม่ โดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะมีการสร้างฟลัดเวย์เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ภาคกลาง โดยมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัล ดูแลเรื่องนี้
ปัญหาฝุ่น PM 2.5 นับตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ตั้ง KPI ต้องมีฝุ่นน้อยลงทุกปี และควบคุมการเผาไร่ในพื้นที่เกษตร ทำให้ลดพื้นที่การเผาไหม้ 50% และฝุ่นลดลง 30% อีกทั้งมีนโยบายไม่รับซื้อผลผลิตการเกษตร จากประเทศเพื่อนบ้านที่ทำการเผาไหม้ จากนี้จะต้องลดการเผาไหม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งการเผาข้าวหรืออ้อย โดยเฉพาะโรงงานน้ำตาล ภาคเอกชนต้องมีส่วนร่วมด้วย โดยมอบหมายให้นายประเสริฐติดตามเรื่องนี้ ส่วนปัญหายาเสพติด รัฐบาลได้จัดทำแพลตฟอร์มแจ้งเบาะแส ส่งข้อความตรงถึงนายกฯ และใช้ท่าวังผาโมเดล สมัยรัฐบาลเศรษฐาโดยภาคราชการและตำรวจช่วยเหลือ
การทลายทุนผูกขาด เช่น ข้าว ที่มีกฎหมายควบคุมให้เป็นยุทธภัณฑ์ แม้จะแก้กฎหมายให้ส่งออกได้แต่ยังไม่ทันสมัย เพราะการขออนุญาตเป็นส่งออกข้าว ต้องมีสต็อกข้าวอย่างน้อย 500 ตัน รัฐบาลจะปลดล็อกให้เกษตรกรมีโอกาสส่งออกข้าวด้วยตัวเองได้ รวมทั้ง SMEs ขนาดเล็ก หรือผู้ประกอบการได้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง และการนำธุรกิจนอกระบบกลับเข้ามาสู่ในระบบ ที่มีมูลค่ามากกว่า 49% ของจีดีพีประเทศ เป็นช่องทางของผู้มีอิทธิพลและการคอรัปชั่น เพื่อให้เก็บภาษีได้ และนำภาษีมาให้ประชาชน ส่วนการลงทุนในธุรกิจในอนาคตหรือ AI ได้ดึง Google และ Microsoft เข้ามา แต่ยังมีข้อจำกัดที่ต้องพัฒนา รัฐบาลมีแผนลงทุนในธุรกิจ AI และรถยนต์ไฟฟ้า EV ภายใน 5 ปี และจะให้มีการศึกษา 2.85 แสนคน เพื่อรองรับธุรกิจประเภทนี้
ส่วนสิ่งที่รัฐบาลจะทำในปี 2568 ได้แก่ โครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน โดยใช้เงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หนึ่งอำเภอหนึ่งซัมเมอร์แคมป์ ส่งนักเรียนไปเรียนต่างประเทศระยะสั้น 5-8 สัปดาห์ และการสร้างโรงเรียนต้นแบบสองภาษาและ AI แต่ละอำเภอ โครงการ SML ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โครงการซอฟต์โลนสำหรับ SMEs โครงการบ้านเพื่อคนไทย เริ่มจากใช้พื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย สร้างคอนโดมิเนียม ให้สิทธิการเช่าผ่อนเดือนละ 4,000 บาท 30 ปี มีสิทธิ์อยู่อาศัยได้ 99 ปี นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเริ่มขึ้นแล้วกับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง การเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุจะได้รับภายในเทศกาลตรุษจีนปี 2568 ส่วนบุคคลทั่วไปจะจ่ายในระบบดิจิทัลวอลเล็ต
ปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ได้ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ โดยลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ 0.23% เป็นเงินกว่า 39,000 ล้านบาทต่อปี และธนาคารพาณิชย์จะสมทบให้อีก 39,000 ล้านบาทต่อปี รวมเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี จ่ายดอกเบี้ยแทนประชาชน โดยการพักจ่ายดอกเบี้ย 3 ปี ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระบบต่ำกว่า 5,000 บาท กว่า 335,000 บัญชี จะมีกระบวนการประนอมหนี้แบบพิเศษ ล้างหนี้ให้ทั้งหมด ย้ำว่า มีเงื่อนไขสำหรับคนที่ทำถูกต้องตามกฏหมาย และให้เฉพาะคนที่เดือดร้อนจริงๆ
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นักการเมืองและข้าราชการ ต่างมาจากภาษีของประชาชน มีหัวใจเดียวกันคือทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน ทำให้ประเทศไทยดีขึ้น วันนี้อยากให้ข้าราชการทุกคนยึดคติในใจว่า หลังจากนี้จะเป็นปีแห่งการสร้าง People Empowerment เพิ่มอำนาจประชาชน ลดอำนาจรัฐ ทุกคนคือทีมเดียวกัน ต้องช่วยกันอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน 66 ล้านคน โดยราชการ 3 ล้านคน คือกลไกที่สำคัญในการช่วยผลักดันประเทศ จึงขอเชิญชวนทุกคนทำเพื่อประเทศชาติ ประชาชน ลูกหลานในอนาคต 10-20 ปี และสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับประเทศ ซึ่งปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาสและความหวังไปด้วยกัน