ปราจีนบุรี-ผบช.ภ.2 ยันเหตุยิงกันตายในบ้านพัก นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็นเหตุสะเทือนขวัญมีผลต่อภาพลักษณ์ จ.ปราจีนบุรี ขณะผู้ต้องสงสัยทั้ง7 คนและพยานแวดล้อม 3 ปากยังถูกสอบสวนยันเช้าที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ระบุเหตุจูงใจเพราะพูดคุยการเมืองท้องถิ่น เคลียร์คนลงเลือกตั้งสนาม อบจ.ไม่ลงตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุยิงกันตายภายในบ้านพักของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ที่ จ.ปราจีนบุรีว่า เมื่อเวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา ( 12 ธ.ค.) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ นายชัยเมศร สิทธิสนิทพงษ์ หรือ สจ.โต้ง อายุ 49 ปี อดีต ส.อบจ.คนดังเมืองปราจีนฯ และยังเป็นโปรโมเตอร์มวยผู้กว้างขวาง รวมทั้งเป็นคนสนิทของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี อดีต รมช.สาธารณสุข ถูกยิงเสียชีวิต
หลังมีการเรียกประชุมนักการเมืองระดับท้องถิ่นในสนามการเลือกตั้ง ส.อบจ. เพื่อวางตัวผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้งที่กำลังจะหมดวาระลงในวันที่ 19 ธ.ค.67 นี้จนเกิดเหตุการณ์ยิงกันตายเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา
โดยบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่เกิดผลกระทบในเชิงสังคมต่อภาพลักษณ์ของ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งตนเองจะเข้ามาดูแลควบคุมการปฏิบัติและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆเพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายสุนทร วิลาวัลย์และผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในเหตุการณ์รวมทั้งหมด 7 คนไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะนี้การสอบสวนก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังได้เชิญพยานแวดล้อมอีก2-3ปากไปให้ปากคำด้วยเช่นกัน
โดยผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี รวมทั้งรองผบก.และผกก.สืบสวนปราจีนบุรีและกองบังคับการสืบสวนภ.2 ลงปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างเต็มกำลังจำนวนหลายสิบนายเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างราบรื่นรวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้าน พล.ต.ต.ภูมินทร์สินหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เผยว่าก่อนเกิดเหตุภายในบ้านได้มีนัดหมายกันมาพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบจ.ซึ่งอาจเกิดความขัดแย้ง ซึ่งรายละเอียดต่างๆจะอยู่ในสำนวนการสอบสวนทั้งหมด ส่วนอาวุธที่พบในที่เกิดเหตุยังอยู่ระหว่างการรวบรวมว่ามีจำนวนเท่าไรเช่นกัน
โดยยืนยันว่าไม่ใช่อาวุธสงครามละยังอยู่ระหว่างการรวบรวมวัตถุพยานทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์หาความเชื่อมโยงทางคดี
