xs
xsm
sm
md
lg

“อุ๊งอิ๊ง”เจอศึกหนัก ทั้งใน-นอกสภา ไหวมั๊ย !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


แพทองธาร ชินวัตร - ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ
เมืองไทย 360 องศา

คาดการณ์กันไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า ในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยสามัญที่จะเริ่มมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม เป็นต้นไป “อุ๊งอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะต้องเจอกับบททดสอบอันหนักหน่วงแน่นอน ทั้งเรื่อง “กระทู้” ถามสด ไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้านได้เตรียมถล่มกันแล้ว


ขณะเดียวกัน ยังต้องเจอกับการเคลื่อนไหวนอกสภาตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป จะต้องเจอกับศึกหนักหลายเรื่อง ที่เห็นชัดเจนก็คือ กรณีคัดค้าน “เอ็มโอยู44” ระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อแบ่งผลประโยชน์ด้านพลังงานใต้ทะเล ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาลยืนกราน แล้วว่า “ไม่มีการยกเลิก” แน่นอน และยังไม่รวมกับการตั้งคำถามเรื่อง “วุฒิภาวะ” รวมไปถึงความรู้ความสามารถ บั่นทอนความเชื่อถือในฐานะนายกรัฐมนตรี ลงไปเรื่อยๆ

ตั้งแต่เริ่มเปิดสภาวันแรก 12 ธันวาคม ฝ่ายค้าน นำโดยพรรคประชาชน เตรียมยื่นกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี กันเลย แม้ว่าจะยังอุบเป็นความลับว่าจะถามเรื่องอะไรกันแน่ แต่ก็ถือว่าเป็น “เกม” สงครามประสาท เขย่าขวัญทดสอบกันไปก่อน ซึ่งแม้ว่าอาจมองดูแล้วยังไม่ใช่เรื่องจริงจังนัก แต่อย่างน้อยก็สามารถตีกิน ทำลายเครดิตไปก่อนว่า “นายกฯหนีสภา”

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานหลังเปิดสมัยประชุมสภา วันที่12 ธ.ค. ว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านจะคุยถึงภาพรวมในการทำงานในสมัยประชุมที่จะเริ่มในสมัยประชุมนี้ รวมทั้งเรื่องโควตาต่างๆ ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น กระทู้สด เพราะการประชุมวันที่ 12 ธ.ค. ถือเป็นการถามกระทู้สดวันแรกของสมัยประชุม รวมถึงจะพูดคุยถึงแนวทางการทำงานของการทำงานฝ่านค้านเป็นอย่างไร และควรทำอะไรบ้างในสมัยประชุมนี้

ในส่วนของกระทู้ที่จะถามในวันที่ 12 ธ.ค. มีหลายประเด็นที่สังคมสนใจ และรัฐบาลได้ขับเคลื่อนสื่อสารในช่วงปิดสมัยประชุม ดังนั้น ฝ่ายค้านได้เตรียมกระทู้สดที่จะถามนายกฯ ไว้แล้ว โดยให้ นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาเป็นผู้ถาม เนื่องจากมีหลายเรื่องที่ช่วงปิดสมัยประชุมที่จะต้องสอบถาม แต่เราเลือกเรื่องที่สำคัญที่สุด และสังคมจับตามองมาถาม

นอกจากนี้ นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมนี้ อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นช่วงเวลาไหน คงต้องคุยกับพรรครร่วมฝ่านค้านก่อน โดยจะมีการคุยกันภายในเพื่อวางแผนทั้งหมด

ขณะที่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อม ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า วันนี้ในการประชุมวิปรัฐบาลได้มีการเน้นย้ำวิปของทุกพรรคถึงเรื่ององค์ประชุม ว่าเป็นเรื่องสำคัญและให้รักษาองค์ประชุมไว้ในวันพุธและวันพฤหัสบดี เพราะจะมีกฎหมายสำคัญที่ทางรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลเสนอเข้ามา ซึ่งในสัปดาห์ถัดไปอาจจะมีการประชุมเพิ่มวันศุกร์ด้วย เป็นการประชุมร่วมสองสภา

เมื่อถามว่า การตั้งกระทู้ถามในวันที่12 ธ.ค. ฝ่ายค้านจะประเดิมถามนายกรัฐมนตรี ทางรัฐบาลได้มีการเตรียมการไว้อย่างไร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ได้มาร่วมประชุมกับวิปรัฐบาลด้วย โดยได้ยืนยันว่ารัฐมนตรีพร้อมจะมาตอบคำถามในสภา แต่วันนี้ยังไม่ทราบเรื่องที่จะถาม

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขอชี้แจงกับประชาชนว่า การจะยื่นกระทู้ถามสดนั้น จะเกิดขึ้นในวันที่12 ธ.ค.ในช่วงเช้า และจะพิจารณาส่งต่อให้นายกฯ โดยจะมีเวลาพิจารณา 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวมาตอบ ไม่ใช่ไปประกาศว่า วันที่ 12 ธ.ค. นายกฯ ไม่มาตอบกระทู้ ไม่เป็นความจริง และไม่ใช่บอกแล้วจะมาได้ทันที อย่างที่ทราบอยู่แล้วว่า วันที่12 ธ.ค. นายกฯจะมีการการแถลงผลงานรัฐบาล แต่ย้ำว่า รัฐมนตรีคนอื่นที่ไม่ติดแถลงนั้นเราก็มีการขอความร่วมมือให้มาตอบกระทู้ ตามที่ฝ่ายค้านตั้งใจจะถาม

“ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจ ไม่ใช่ไปพูดว่านายกฯ หนี ก็ยังไม่ได้ถามจะไปรู้หรือว่าถามใคร เรื่องราวที่จะถามก็ยังไม่รู้ ถ้าจะถามพรรคประชาธิปัตย์ เขาก็พร้อม รัฐมนนตรีพร้อมหมด แต่นายกฯ เขาก็นัดหมายมาเป็นเดือนแล้วว่าจะแถลงผลงาน ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์อย่างหนึ่ง” นายวิสุทธิ์ กล่าว และว่าหากนายกรัฐมนตรีมาไม่ได้ ก็สามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีมาตอบแทนได้

แน่นอนว่า การประเดิมกระทู้ถามสดกับนายกรัฐมนตรีช่วงเปิดสมัยประชุมนัดแรก เป็นแค่การหยั่งเชิง “เล่นเกม” กวนประสาท แต่หากในครั้งต่อไป ยังไม่ยอมมาตอบกระทู้มัน ก็จะเกิดเสียงวิจารณ์ได้ อย่างน้อยข้ออ้างเรื่อง “มาจากประชาชน” ที่ค้ำคออยู่ ทำให้เกิดความเสียหายได้

อย่างไรก็ดี ด้วยคำถามเรื่อง “วุฒิภาวะ” และเสียงวิจารณ์เรื่องความรู้ความสามารถของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในช่วงที่ผ่านมา ล้วนออกมาในทางลบ เริ่มปรากฏออกมาให้เห็นเรื่อยๆ จากกรณีถูกเหน็บแนมว่า “นายกฯไอแพด” มันยิ่งทำให้เกิดความอึดอัด เพราะเกมในสภาบางครั้งจะพึ่งพา “พี่เลี้ยง” ไม่ได้ตลอดเวลา ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวบ้าง และในสมัยประชุมนี้ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเจอกับบททดสอบในสภาหนักหน่วงกว่าเดิมหลายเท่า ต่างจากช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ที่เป็นช่วงปลายสมัยประชุมสภา มีแค่การแถลงนโยบายต่อสภาที่ใช้วิธีการ “อ่านตามโพย” แต่หากถูกอภิปราย ถูกซักถาม ก็ต้องยืนขึ้นตอบคำถามด้วยตัวเองบ้าง จะมอบให้รัฐมนตรีตอบแทนทุกเรื่อง คงไม่ได้

ขณะที่ความเคลื่อนไหวนอกสภา ก็เริ่มตั้งเค้าเจอ “ศึกใหญ่” หลายเรื่องเช่นเดียวกัน ที่อรอยู่ตรงหน้าก็คือกรณี “เอ็มโอยู 44” ที่มีการยื่นหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกโดยเร็ว เพราะขัดพระบรมราชโองการ และผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นต้น โดยล่าสุด นายกรัฐมนตรีก็ยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลจะเดินหน้าต่อไป สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้เกิดกระแสคัดค้าน เกิดแรงผลักดันให้ “ลงถนน” กันมากขึ้น

แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็น่าจะทำให้กระอัก อยู่แล้ว ยังมีปัญหาทำลายความน่าเชื่อถือมากมายที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งเรื่องผลงานของรัฐบาลไม่เป็นชิ้นเป็นอัน นโยบายหลักๆ ไม่เป็นไปตามเป้าหรือ “ไม่ตรงปก” ปัญหาเศรษฐกิจที่คาดว่าปีหน้าไทยต้องเจอปัญหารุนแรงกว่าปีนี้อีก จากความขัดแย้งของมหาอำนาจจนมีการกีดกันทางการค้า ยังไม่รวมปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อบ้าน ที่ล่าสุดกรณีพม่าจับกุม 4 ลูกเรือประมง จนบัดนี้ก็ยังไม่ปล่อยตัวออกมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่า “อาจปล่อยตัว” หลังปีใหม่ กรณีดังกล่าวอาจทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลมีความอ่อนแอ ไม่มีพลังต่อรองกับเพื่อนบ้านได้เลย

ดังนั้นเมื่อพิจารณาตามรูปการณ์แล้ว ได้เห็นแนวโน้มแล้วว่า ตั้งแต่สมัยประชุมนี้ไปจนถึงปีหน้ารัฐบาลที่นำโดย “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องเจอศึกหนักแน่นอน ทั้งในและนอกสภา ภาวะผู้นำและความรู้ความสามารถ ต้องถูกทดสอบอย่างหนัก ท่ามกลางรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลที่เริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้น ดังตัวอย่างกรณีร่างแก้ไขกฎหมายจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมที่พรรคเพื่อไทยต้องถอนออกไปแทบไม่ทัน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น