อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุในวันพุธ (11 ธ.ค.) การโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เป็นผลลัพธ์ของแผนการหนึ่งของสหรัฐฯ และอิสราเอล
นอกจากนี้ คอเมเนอี ยังบอกด้วยว่ามีเพื่อนบ้านซีเรียอีกชาติหนึ่งที่มีบทบาทในเรื่องนี้เช่นกัน แต่เขาไม่เอ่ยชื่อประเทศดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์เชื่อว่าน่าจะเป็นตุรกี ที่ให้การสนับสนุนพวกกบฏต่อต้านอัสซาด
การที่อัสซาดถูกโค่นจากอำนาจ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ "กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน (Axis of Resistance) พันธมิตรทางการเมืองและการทหารที่ต่อต้านอิทธิพลของอิสราเอลและสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง
"สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย ส่วนใหญ่แล้วเป็นการวางแผนในห้องบัญชาการในอเมริกาและอิสราเอล เรามีหลักฐานในเรื่องนี้ รัฐบาลเพื่อนบ้านชาติหนึ่งของซีเรียก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน" คอเมเนอีกล่าว ในถ้อยแถลงที่สื่อมวลชนแห่งรัฐอิหร่านรายงาน "เพื่อนบ้านแห่งนี้มีบทบาทอย่างชัดเจน และยังคงทำเช่นนั้น"
ตุรกี ชาติสมาชิกนาโต ควบคุมดินแดนอันกว้างขวางทางเหนือของซีเรีย หลังรุกรานข้ามชายแดนหลายครั้งเข้าไปจัดการกับพวก YPG กลุ่มติดอาวุธซีเรีย-เคิร์ด ขณะเดียวกัน ตุรกี ก็เป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญของกลุ่มต่อต้านต่างๆ ที่มีเป้าหมายโค่นล้มอัสซาด นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นในปี 2011
อิหร่าน ใช้เงินไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในการพยุงอัสซาด ระหว่างสงครามและส่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม เข้าไปยังซีเรีย เพื่อรักษาอำนาจให้พันธมิตรรายนี้
ไม่กี่ชั่วโมงหลังการล่มสลายของอัสซาด ทางอิหร่านระบุว่าพวกเขาคาดหมายว่าความสัมพันธ์กับดามัสกัสจะเดินหน้าต่อไปบนพื้นฐานของแนวทางที่ชาญฉลาดและมองการไกลของทั้ง 2 ประเทศ และเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วนในสังคมซีเรีย
ในถ้อยแถลง คอเมเนอี บอกว่าพันธมิตรที่นำโดยอิหร่าน จะเดินหน้าเสริมความเข้มแข็งทั่วทั้งภูมิภาค "ยิ่งคุณออกแรงกดดันมากเท่าไหร่ การต่อต้านที่เข้มแข็งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณก่ออาชญากรรมมากเท่าไหร่ ความแน่วแน่ยิ่งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณสู้รบมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งขยายวง" ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าว "อิหร่านจะแข็งแกร่งและทรงพลัง และจะเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม"
(ที่มา : รอยเตอร์)