‘กรมป่าไม้’ ยันพื้นที่ 66 จาก 112 ไร่ ภูนับดาวรุกป่า รอคำตอบ ส.ป.ก. ติดคดีทั้งหมดหรือไม่ หลังถาม 2 รอบยังไม่ตอบ ยันหากออก ส.ป.ก. โดยมิชอบ ต้องเพิกถอนกลับมาเป็นป่า
เมื่อวันที่ (11 ธ.ค.) ที่กรมป่าไม้ นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะโฆษกกรมป่าไม้ และนายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผอ.ส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ร่วมในการแถลงผลการดำเนินงานการตรวจสอบที่ดินไร่ภูนับดาว อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
นายบรรณรักษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา โดยได้ไปชี้แจงว่าทางกรมป่าไม้ได้ไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว พบว่า ณ วันนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ออก 4-01 ไปแล้ว จำนวน 7 ราย โดย 2 ใน 7 รายนั้น ได้ยื่นเอกสารมาให้ตรวจสอบแล้ว ที่เหลือขอข้อมูลไปแล้วแต่ยังไม่มีการตอบกลับ ทั้งนี้ ทาง ส.ป.ก. แจ้งมาว่า กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องอยู่ว่าออก ส.ป.ก.4-01 ได้อย่างไร รวมทั้งตรวจสอบไปยังผู้ครอบครองด้วย
นายบรรณรักษ์ กล่าวว่า สำหรับความเป็นมาของพื้นที่บริเวณนี้ เดิมเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติปี 2507 และป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ปี 2484 ต่อมาในช่วง ปี 2521-2524 มีการเข้าไปปลูกป่าเป็นพื้นที่สวนป่าปางหัวช้าง-คลองไทร จากนั้นปี 2525 มีการเพิกถอนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้ทาง ส.ป.ก. นำไปปฏิรูป ทั้งนี้เมื่อปี 2545 ได้มีการปฏิรูปบริหารราชการแผ่นดินโดยแบ่งกรมป่าไม้ออกเป็น 3 กรม ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยพื้นที่สวนป่าปางหัวช้างฯ อยู่ในความรับผิดชอบของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อมาได้ส่งมอบให้กรมป่าไม้ในปี 2558
“ความเกี่ยวข้องพื้นที่ที่กรมป่าไม้เกี่ยวข้องคือ เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่แม้ว่าจะเพิกถอนให้ ส.ป.ก. ปฏิรูปแล้ว แต่กรมป่าไม้ยังมีภาระผูกพันในการดูแลสวนป่าอยู่ ซึ่งมีทั้งหมด 6,640 ไร่ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีราษฎรเข้ามาบุกรุกพื้นที่ และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี แต่ต่อมาเมื่อมีการออกเป็น ส.ป.ก.4-01 พบว่า มีการสร้างไร่ภูนับดาวขึ้นมา ซึ่งภูนับดาวนี้ มีพื้นที่ทั้งหมด 112 ไร่เศษ และใน 112 ไร่ นั้น กลับมีการทับซ้อนกับพื้นที่ที่ป่าไม้เคยตรวจยึดเอาไว้ก่อนหน้าที่จะออกเป็น ส.ป.ก.4-01 ด้วย” นายบรรณรักษ์ กล่าว
นายบรรณรักษ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 5 สระบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ทส.1618/2564 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 67 ถึงสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.สระบุรี เพื่อสอบถามว่าบริเวณพื้นที่ ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มีการออกหนังสืออนุญาตให้บุคคลภายนอกรายใดบ้าง และการออกหนังสืออนุญาตเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย หรือไม่อย่างไร หาก ส.ป.ก. มีหนังสือตอบกลับมา ก็จะเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นพื้นที่ที่นำไปจัดสรรถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็ต้องเพิกถอนพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้สำหรับข้อเสนอของกรมป่าไม้ คืออยากให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินระดับจังหวัด มีตัวแทนของกรมป่าไม้เข้าไปร่วมด้วย เพื่อให้การดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อประชาชนเป็นไปอย่างราบรื่น
เมื่อถามว่าไร่ภูนับดาวมีพื้นที่ครอบครองทั้งหมดกี่ไร่และทับซ้อนกับพื้นที่บุกรุกที่ถูกดำเนินคดีกี่ไร่ นายบรรณรักษ์ กล่าวว่า ไร่ภูนับดาวมีพื้นที่ครอบครองทั้งหมด 112 ไร่เศษ ส่วนทับซ้อนพื้นที่ตรวจยึดดำเนินคดีเท่าไรนั้น ที่ผ่านมาพื้นที่สวนป่าปางหัวช้างฯ มีการดำเนินคดีบุกรุกจำนวน 11 คดี เนื้อที่จำนวน 200 ไร่ ที่กรมป่าไม้ได้รับมอบคดีมาจากกรมอุทยานฯ แต่ปรากฏชัดเจนเพียง 1 คดี เนื้อที่จำนวน 66 ไร่เศษ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ 112 ไร่ของภูนับดาว ส่วนพื้นที่ที่เหลืออยู่ระหว่างการรอทาง ส.ป.ก. ยืนยันว่าได้นำพื้นที่ดังกล่าว ไปปฏิรูปที่ดินหรือไม่ ซึ่งทางกรมป่าไม้ได้ถามไป 2 รอบแล้ว แต่ทาง ส.ป.ก. ยังไม่ได้ตอบกลับมา ส่วนจะสันนิษฐานได้เลยหรือไม่ว่าเป็นพื้นที่ติดคดีเดิมทั้งหมด 112 ไร่นั้น ก็ต้องรอความชัดเจนจากทาง ส.ป.ก. ก่อน และหากสุดท้ายเป็นการนำพื้นที่ป่าไปออก ส.ป.ก. โดยมิชอบ ก็ต้องมีการเพิกถอนพื้นที่ให้กลับมาเป็นพื้นที่ป่าต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดความเป็นมาและสถานะที่ดินบริเวณพื้นที่ไร่ภูนับดาว พบว่าเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2507 ประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าฤทธิ์ ป่าท่าลำทองหลาง และป่าลำพญากลาง วันที่ 12 ส.ค. 2520 กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จากนั้นกรมป่าไม้ปลูกสร้างสวนป่าปางหัวช้างฯ ในปี 2521-2524 อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานป่าไม้สระบุรี กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื้อที่ 4,300 ไร่
วันที่ 1 พ.ย. 2525 เพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าฤทธิ์ ป่าท่าลำทองหลาง และป่าลำพญากลางบางส่วน กรมป่าไม้ปลูกสวนป่าปางหัวช้างฯ ปี 2529-2537 ในท้องที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เนื้อที่ 2,340 ไร่ ต่อมาสวนป่าปางหัวช้างฯ ซึ่งสังกัดเดิมกรมป่าไม้ ถ่ายโอนไปสังกัดกรมอุทยานฯ ในปี 2548 และได้มีการตรวจยึดดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้จำนวน 11 คดี ซึ่งจากการตรวจสอบตามค่าพิกัดพบว่าในพื้นที่ไร่ภูนับดาวมีจำนวน 1 คดี คือคดีอาญาที่ 13 / 2552 สำหรับคดีตามที่ปรากฏเป็นข่าว สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี กรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้มีการส่งมอบคดีให้กับสำนักจัดการป่าไม้ที่ 5 สระบุรี กรมป่าไม้
ทั้งนี้วันที่ 7 พ.ค. 2567 สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักป้องกันปราบปรามการทุจริตในเขตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 1 และสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่บริเวณไร่ภูนับดาว ตามที่ได้รับการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสจากการชี้นำของนายวันชัย ฉิมพลี ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าว คำนวณพื้นที่ได้ประมาณ 112 ไร่
โดยนายวันชัย แจ้งว่า บริเวณที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ มี ส.ป.ก. 4-01 จำนวน 7 ฉบับ แต่ขณะตรวจสอบแสดงได้เพียง 2 ฉบับ ซึ่งจะนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ภายหลังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี จึงมีหนังสือสอบถามไปยังสำนักการปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี ว่าบริเวณที่เจ้าหน้าที่ตรวจตรวจสอบ มีการออกหนังสืออนุญาตให้กับบุคคลใดบ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบริเวณที่ตรวจสอบมีการทับซ้อนกับแปลงคดีที่ได้รับมอบจากกรมอุทยานฯ บริเวณแปลงปลูกป่าปี 2521 สวนป่าปางหัวช้างฯ