รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม อ้างร่างกฎหมายจัดระเบียบกลาโหมของ "ประยุทธ์ ศิริพานิชย์" ที่ถอนไปปรับเป็นร่างส่วนตัว ไม่เกี่ยวพรรคเพื่อไทย พร้อมหนุนปรับแก้ตามเสียงสะท้อนทุกฝ่าย ด้านประเสริฐไม่เชื่อจะมีรัฐประหารรอบ 3 อ้างสังคมโลกเปลี่ยนไป ส่วนเว็บรับฟังความเห็นของสภาฯ พบเสียงสนับสนุนมากกว่าค้านราว 10%
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถอนร่างพระร่างบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่มีเนื้อหาให้อำนาจคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหาร ว่า ร่างที่ถอนออกไป เป็นร่างส่วนตัวของนายประยุทธ์ ที่ถอนไปปรับ ต้องดูว่าจะปรับอย่างไร จึงไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย และเรื่องนี้ไม่ได้เข้าที่ประชุม สส. รวมถึง ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีที่นายประยุทธ์ รับฟังเสียง แล้วนำไปปรับแก้ ส่วนประเด็นไหนที่ควรนำออกไป ให้นายประยุทธ์ตัดสินใจ บางเรื่องถูกคัดค้าน บางเรื่องได้รับการสนับสนุน ควรให้แต่ละฝ่ายได้ช่วยกันพิจารณา
ส่วนร่างของกระทรวงกลาโหม เรื่องเค้าโครงการให้อำนาจนายกฯ สกัดการปฏิวัติ โดยให้อำนาจ รมว.กลาโหมพิจารณานั้น เป็นร่างที่นายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหมได้เสนอไว้ ซึ่งตนได้ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง มีความเห็นจากหลายส่วนอยากให้ปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม ซึ่ง รมช.กลาโหมก็ได้รับเรื่องกลับไปทบทวน ตนก็ได้บอกว่าให้นำกลับเข้ามาเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ประกบร่างกับของฝ่ายค้านที่ได้ยื่นไว้แล้ว ทุกอย่างให้รอความเหมาะสม ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ ขอเอาข้อสังเกตของทุกฝ่ายไปดูเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ กฎหมายการป้องกันรัฐประหารมีอยู่แล้วมากกว่ากฎหมายสภากลาโหม เพราะรัฐธรรมนูญได้ระบุว่า การทำรัฐประหารเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและเป็นกบฏ แต่ในความเหมาะสมและความเป็นจริงควรเป็นเรื่องที่ให้ทุกฝ่ายช่วยระงับการรัฐประหาร เช่น การสร้างวัฒนธรรมในการยอมรับระบอบประชาธิปไตย ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าประชาธิปไตยไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทุกส่วนจึงน่าจะใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยในการพูดคุย และบรรยากาศขณะนี้ทุกฝ่ายคุยกันได้หมด กับพรรคร่วมก็ไม่มีปัญหา คิดว่าเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่มีการตัดสินใจ และยังไม่ใช่เรื่องที่มีความขัดแย้งจนเป็นปัญหา เพียงแต่เป็นความเห็น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค้างคาในสังคมมานานแล้ว ส่วนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ยกโมเดลเกาหลีใต้ให้เพิ่มบทลงโทษในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนไม่ขอก้าวล่วง เพราะมีความเห็นมากมายที่จะแก้ปัญหา ต้องดูสาเหตุและการแก้ปัญหาหลายอย่าง เป็นสิ่งที่ดีต่อพัฒนาการการเมืองของประเทศ
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระบวนการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร สส. เข้าชื่อกันก็สามารถเสนอได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องผ่านกระบวนการของพรรคเช่นกัน เข้าใจว่านายประยุทธ์ได้กลับไปทบทวน และรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน การเสนอร่างกฎหมายจะต้องไปชี้แจงในที่ประชุมพรรคให้รับทราบว่า กฎหมายแต่ละฉบับ มีสาระสำคัญอย่างไร แต่รอบนี้อยู่ระหว่างปิดสมัยประชุมสภาฯ จึงไม่มีการประชุมพรรค และตามปกติการเสนอร่างกฎหมายจะต้องผ่านวิปรัฐบาล เป็นคนกลั่นกรองและนำเสนอ อย่างไรก็ตาม ตนไม่เชื่อว่าจะมีรัฐประหารเป็นครั้งที่ 3 ถ้าวันนี้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าสังคมโลกเปลี่ยนไป การปฏิวัติรัฐประหารไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว ส่วนการออกกฎหมายดังกล่าว จะสามารถสกัดรัฐประหารได้จริงหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ วันนี้ประเทศบอบช้ำมามากจากหลายๆ เรื่อง เพราะฉะนั้นถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก ก็อยากให้ทุกฝ่ายตระหนักและใช้สติในการทำเรื่องต่างๆ
ส่วนร่างของกระทรวงกลาโหม ที่นายสุทินเป็นผู้เสนอ ที่คงอำนาจให้นายกรัฐมนตรีสั่งพักราชการบุคคลที่ทำรัฐประหาร ควรจะมีไว้เพื่อเป็นเครื่องไม้เครื่องมือในการยับยั้งไว้ก่อนหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า กฎหมายที่จะเสนอเข้าสภาฯ นอกจากจะต้องผ่านกระบวนการต่างๆ แล้ว ยังต้องผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นจากประชาชนด้วย เพราะฉะนั้นขั้นตอนต่างๆ ตนไม่อยากลงลึก เป็นเรื่องของสภาฯ ที่ต้องพิจารณา แต่ก่อนจะถึงสภาฯ ต้องมีกระบวนการที่จะทำให้กฎหมายนั้นมีความชอบธรรม และมีความสมบูรณ์
ขณะที่เว็บไซต์ การรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ. ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พบว่าร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับคณะ พบว่า ณ เวลา 11.30 น. มีผู้เข้าชม 72,582 ราย แสดงความเห็น 10,833 คน พบว่าเห็นด้วย 59.24% ไม่เห็นด้วย 40.76%