จีนเคลื่อนเรือจำนวนมากของกองทัพและหน่วยยามฝั่งเข้าไปรอบๆ เกาะไต้หวันตลอดจนเข้าสู่น่านน้ำต่างๆ ของภูมิภาค ถือเป็นการระดมกำลังนาวีครั้งใหญ่ที่สุดของแดนมังกรในรอบเวลาเกือบ 30 ปี และเป็นภัยคุกคามอย่างชัดเจนยิ่งกว่าการซ้อมรบของจีนในครั้งก่อนๆ กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงวันอังคาร (10 ธ.ค.) ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ปักกิ่งได้แสดงความโกรธเกรี้ยวการที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไทเป เดินทางไปแวะสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ซุน ลี่ฟาง โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน แถลงในนครไทเปเมื่อวันอังคาร (10) ว่า ขนาดการเคลื่อนกำลังนาวีคราวนี้ของจีนเข้าไปยังอาณาบริเวณตั้งแต่หมู่เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ต่อลงไปในทะเลจีนใต้ ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดนับจากที่จีนจัดการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในปี 1996
ทางด้านกองทัพไต้หวันนั้นได้มีการยกระดับการเตรียมพร้อมขึ้นสู่ระดับสูงแล้วตั้งแต่วันจันทร์ (9) หลังจากออกมาแถลงว่าจีนได้ประกาศพื้นที่สงวนทางอากาศ รวมทั้งเคลื่อนเรือจำนวนมากของกองทัพเรือและของหน่วยยามฝั่ง ทำให้คาดการณ์กันว่า กองทัพจีน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) กำลังจะจัดซ้อมรบเพื่อตอบโต้การที่ประธานาธิบดีไล่ เดินทางเยือนบางประเทศแถบแปซิฟิกที่สิ้นสุดเมื่อวันศุกร์ (6) ที่ผ่านมา โดยที่มีการแวะรัฐฮาวาย ของสหรัฐฯ รวมทั้งเกาะกวมซึ่งเป็นดินแดนของอเมริกา ตลอดจนโทรศัพท์พูดคุยกับ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า จีนกำหนดพื้นที่สงวนทางอากาศชั่วคราวไปจนถึงวันพุธ (11) ครอบคลุมพื้นที่มณฑลทางตะวันออกของแดนมังกร อย่างเช่น ฝู่เจี้ยนและเจ้อเจียง
ปกติแล้วพื้นที่ลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรไว้สำหรับใช้งานอย่างเจาะจงในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ แต่เครื่องบินอื่นๆ ก็อาจสามารถบินผ่านไปได้หากได้รับอนุญาต ภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ประกาศแจ้งภารกิจทางอากาศที่ออกโดยจีน ได้ให้พิกัด 7 พื้นที่ ซึ่งใน 2 ในนั้นเป็นส่วนหนึ่งของช่องแคบไต้หวันซึ่งอยู่ในอาณาเขตของมณฑลฝู่เจี้ยน ส่วนที่เหลืออยู่ตามแนวชายฝั่งของมณฑลเจ้อเจียง และนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ในทะเลจีนตะวันออก
จวบจนถึงเวลานี้ กองทัพจีนและสื่อของทางการปักกิ่งยังไม่ได้ออกมาแถลงหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับกิจกรรมการทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายคราวนี้ ในพื้นที่ทะเลจีนตะวันออก ช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนใต้ ตลอดถึงกระทั่งมีการตรวจพบความเคลื่อนไหวในภาคตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกอีกด้วย รวมทั้งจีนยังไม่ได้ยืนยันว่ากำลังจะดำเนินการซ้อมรบใดๆ
ถึงแม้ในวันจันทร์ เหมา หนิง โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวตามปกติว่า ปักกิ่งจะปกป้องอธิปไตยของตนเองอย่างแน่วแน่ รวมทั้งยืนยันว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งที่ “ไม่อาจกลายเป็นอื่นไปได้” ของจีน
ซุน โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน กล่าวในวันอังคารว่า ระดับการส่งเรือออกมาในขณะนี้ของจีนถือว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับการซ้อมรบ 4 ครั้งก่อนหน้านี้ และไม่ว่าจะมีการประกาศการซ้อมรบหรือไม่ แต่สถานการณ์นี้ถือเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อไต้หวัน
ทางด้าน เซี่ย จีเฉิง เจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยข่าวกรองกระทรวงกลาโหมไต้หวัน กล่าวในงานแถลงข่าวเดียวกันว่า จนถึงเวลานี้ จีนยังไม่ได้มีการซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริงใน 7 เขตสงวนทางอากาศที่ประกาศ แต่มีกิจกรรมทางทหารเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนทางด้านเหนือของไต้หวันตั้งแต่เมื่อวันจันทร์
เซี่ยเสริมว่า จำนวนเรือของกองทัพเรือและของหน่วยยามฝั่งจีนในบริเวณดังกล่าวที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงคนหนึ่งของไต้หวันเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า มีอยู่ราว 90 ลำนั้น ถือว่า น่ากังวลอย่างมาก มิหนำซ้ำจีนกำลังเล็งเป้าหมายอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ นอกเหนือจากไต้หวัน
เจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยข่าวกรองกลาโหมไต้หวันผู้นี้แจกแจงว่า การเคลื่อนกองเรือของจีนคราวนี้ เป็นการส่งมายังบริเวณ “ห่วงโซ่เกาะชั้นแรก” (First Island Chain) ซึ่งหมายถึงแนวหมู่เกาะใหญ่ๆ ในแปซิฟิก ตั้งแต่ญี่ปุ่น ผ่านไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ไปจนถึงเกาะบอร์เนียว แนวห่วงโซ่เกาะชั้นแรกนี้ซึ่งอยู่ประชิดน่านน้ำของจีน ถือเป็นส่วนหนึ่งของหลักนิยมว่าด้วยห่วงโซ่เกาะ ในนโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งถูกจีนตีความว่าคือความพยายามของวอชิงตันในการปิดล้อมจีนนั่นเอง แต่ในคราวนี้ เซี่ยอธิบายว่าการส่งกองเรือของจีนมาตรงนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อมุ่งปฏิเสธไม่ยอมให้กองกำลังต่างชาติใดๆ เข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือไต้หวัน
กระทรวงกลาโหมไต้หวันตีความว่า สิ่งที่นาวีจีนกำลังทำอยู่คือการสร้าง “กำแพง” 2 ชั้นขึ้นในแปซิฟิก ชั้นแรกที่ด้านตะวันออกสุดของเขตระบุตัวตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน และอีกชั้นอยู่ไกลออกไปในแปซิฟิก
เซี่ยระบุว่า กำแพง 2 ชั้นเช่นนี้คือการที่ จีนกำลังพยายามทำให้ช่องแคบไต้หวันกลายเป็นทะเลภายในของจีนนั่นเอง
กระทรวงกลาโหมไต้หวันยังแถลงด้วยว่า ตอนช่วงเช้าวันอังคาร ตรวจพบเครื่องบินทหารของจีน 47 ลำในรอบ 24 ชั่วโมงนับจนถึง 6.00 น. ของวันดังกล่าว ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดที่พบในวันเดียวถัดจากสถิติ 153 ลำเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่จีนจัดซ้อมรบใหญ่ตอบโต้การปราศรัยของไล่เนื่องในวันชาติไต้หวัน
เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคงคนหนึ่งของไต้หวันเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า เครื่องบินจีนได้จำลองการโจมตีเรือของกองทัพเรือต่างชาติ และซ้อมขับไล่เครื่องบินของกองทัพและพลเรือน อันเป็นส่วนหนึ่งของ “การปฏิบัติการฝึกปิดล้อม” เกาะไต้หวัน
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์)