ย้อนการให้สัมภาษณ์อดีตรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม อ้างไม่ได้เข้าเรือนจำพบทักษิณ ไม่มีการช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก มาวันนี้กลับบอก ทักษิณเข้าคุกจริง รู้ตั้งแต่ถอดเสื้อยันกักโรค แถมติดฝักบัวให้อีกต่างหาก
วันนี้ (10 ธ.ค.) จากกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยได้กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการพักการลงโทษก่อนหน้านี้ ว่า นายทักษิณก็เข้าคุก นึกภาพห้องขังเป็นลูกกรงๆ ซีกๆ ห้องขังไม่ได้เป็นแบบนั้น
โดยนายวิษณุ กล่าวย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 ว่า ตนเดินทางไปช่วงบ่าย ซึ่งนายทักษิณ เข้าไปก่อนแล้ว ช่วงขั้นตอนต่างๆ ตนไม่อยากไปยุ่งตอนนั้น มีขั้นตอนการถอดเสื้อ เปลี่ยนเสื้อ ถ่ายรูป ทำบัตร ตรวจโรค กักโรค เรียบร้อยแล้วก็มาส่งที่ห้องขัง เพียงแต่ทำดี สะอาดหน่อยเท่านั้น ปัด กวาด เช็ดถูห้องน้ำให้ดูดี เดิมถ่ายห้องหนึ่ง อาบน้ำไปอีกห้องหนึ่ง เราก็ติดฝักบัวให้เขาก็จบเรื่อง ซึ่งตอนติดฝักบัวตนไปดู ตรงนั่นแหละคือห้องขัง ตามหลักตั้งใจว่าถ้า 8 ปี ก็อยู่ในห้องนี้แหล่ะ
เมื่อถามว่า แต่เวลานี้คนก็ยังไม่เชื่อนายทักษิณป่วย นายวิษณุ กล่าวว่า ป่วยไม่ป่วยไม่รู้ แล้วแต่หมอเขาว่าป่วย เมื่อถามว่า เห็นร้องจะเอาผิดทั้งข้าราชการและรัฐมนตรี นายวิษณุ กล่าวว่า ตอนบ่ายที่เอาตัวกลับมาจากที่ตรวจโรคแล้ว ซึ่งไปเพื่อประชุมกับปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า เราตีความกันแน่นแล้ว เขาขังกี่ปี เพราะว่าตามหลักควรเป็น 11 ปี แต่อีกฝ่ายเห็นว่าควรจะเป็น 8 ปี ระหว่างศาลคดีหนึ่งมีลด ในที่สุดก็ส่งเรื่องไปหารือศาลได้คำตอบมาเดี๋ยวนั้นว่า 8 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 นายวิษณุ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหลังเข้าไปพบกับผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อมอบแนวทางการปฏิบัติหลังจากรับตัวนายทักษิณคุมขังในเรือนจำเป็นวันแรก ระบุว่า การเข้าไปในเรือนจำวันนี้ในฐานะรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เข้าไปพบตัวนายทักษิณ และพบว่ามีโรคประจำตัวที่ต้องรักษา 4 โรค ตามที่แพทย์ได้แถลงไป ที่ผ่านมาไม่ทราบว่านายทักษิณ ป่วยเป็นโรคโควิด-19 และลุกลามลงปอดจนป่วยเรื้อรัง แต่เท่าที่ทราบมาก็พบว่ามีอาการดีขึ้น วันนี้ก็ไม่ได้ย้ำหรือสั่งการอะไรเป็นพิเศษ
ส่วนอาการป่วยที่กำลังรักษาอยู่ ก็มีประวัติการรักษาจากประเทศสิงคโปร์ และเป็นภาษาอังกฤษ จึงต้องใช้เวลาในการแปลเอกสาร ส่วนจะส่งตัวออกไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเห็นของแพทย์ ไม่ต้องขอความเห็นจากกระทรวงยุติธรรม เพราะแพทย์มีความสามารถในการวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยอยู่แล้ว
ส่วนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ผู้ต้องขังต้องยื่นเรื่องผ่านพัสดีเรือนจำ ก่อนจะส่งไปกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรี และสำนักองคมนตรี ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งผู้ต้องขังสามารถยื่นเรื่องได้ทันทีที่ได้รับโทษจำคุก ยืนยันกระบวนการนี้ไม่มีการช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวกให้นายทักษิณ เพราะที่ผ่านมาก็มีผู้ต้องขังยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำก็มีจำนวนมาก แต่หากการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเร็วไป อาจมีผลเสียเรื่องการพรรณาเหตุผลในการขอพระราชทานอภัยโทษ
ส่วนการเดินทางเข้ามาติดตามสถานการณ์ภายในเรือนจำในวันนี้ ยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เนื่องจากนายทักษิณ เป็นบุคคลสำคัญที่มีความเสี่ยงหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย จึงต้องเข้ามากำชับด้วยตัวเอง สำหรับการขอเข้าเยี่ยม หากราชทัณฑ์เปิดให้เข้าเยี่ยมก็สามารถเข้าได้ตามปกติ หรือเยี่ยมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่า การเดินทางกลับมาของนายทักษิณ รัฐบาลนี้มีส่วนช่วยเหลืออำนวยความสะดวกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลจะไปอยู่แล้ว คุณจะให้อำนวยอะไรกันหนักกันหนา เดี๋ยว 5 โมงเย็นวันนี้ก็เก็บของกันหมดแล้ว
ส่วนจะมีรัฐบาลใหม่เลยไหม? นายวิษณุ กล่าวว่า “น่าจะได้” และเมื่อถามย้ำต่อว่า รัฐบาลเก็บของแล้วหรือไม่? นายวิษณุ กล่าวว่า เก็บของไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ที่ผมพูดขึ้นมา เพราะคุณถามว่ารัฐบาลไปช่วย ไปเตรียมอะไร รัฐบาลจะไปอยู่แล้ว