ส.ส.พท. ถอยกรูด ถอนร่างกฎหมายยึดอำนาจกองทัพ หลังเจอเสียงค้านจำนวนมาก อ้างเสนอนามส่วนตัวไม่เกี่ยวพรรค เสียงแข็งไม่ได้แทรกแซงกองทัพ แต่รับคงไปสุดซอยไม่ได้ ปัดกลัวขัดแย้งกองทัพ
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม มีเนื้อหาให้อำนาจ ครม.พิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหาร ว่าจากการรับฟังความเห็นของประชาชนใน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามมาตรา77 ของรัฐธรรมนูญ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีเสียงคัดค้านจำนวนมาก ดังนั้น ในวันที่ 12 ธ.ค. ที่มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย ในช่วงเช้า จะเสนอต่อพรรค เพื่อขอถอน ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม กลับไปปรับปรุงแก้ไขใหม่
นายประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าพรรคอนุญาตจะไปขอถอนร่างต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันเดียวกันทันที เพราะเป็นกฎหมายที่ตนและคณะเป็นผู้เสนอในนามส่วนตัว ไม่ใช่ความเห็นพรรคเพื่อไทย ในการรับฟังความเห็นของประชาชน ตามมาตรา77 ถ้าเสียงส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย ก็ไม่สามารถบรรจุวาระเข้าสภาฯ ได้ ส่วนจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ขอรอดูความเห็นประชาชน ที่จะสิ้นสุดการรับฟังความเห็นตาม มาตรา77 ในวันที่ 1 ม.ค. 2568 ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทบทวนกรณีให้ ครม.มีส่วนร่วมการแต่งตั้งนายทหารระดับนายพล หรือไม่ เพราะถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงกองทัพ นายประยุทธ์ กล่าวว่า ขอรอฟังความเห็นประชาชนให้สิ้นสุดก่อน ถึงจะรู้ต้องแก้ไขประเด็นใดบ้าง ถ้าสังคมมองว่า ครม.ควรถอย ก็ต้องรับฟัง ดันทุรังไปแล้ว ก็เสนอกฎหมายไม่ได้อยู่ดี
นายประยุทธ์ ยืนยันว่าเนื้อหา ร่าง พ.ร.บ.ที่ให้ครม.มีส่วนร่วมพิจารณาแต่งตั้งนายพล ไม่ได้แทรกแซงกองทัพ การเสนอแต่งตั้งทหารระดับนายพล จะดำเนินการโดยคณะกรรมการของส่วนราชการนั้นๆ เป็นผู้เสนอชื่อนายพลตามหลักเกณฑ์กระทรวงกลาโหม จากนั้น จึงจะเสนอให้ครม.พิจารณา ทุกอย่างมีระเบียบกระทรวงกลาโหมควบคุมขั้นตอนแต่งตั้ง ไม่ใช่ ครม.แต่งตั้งเอง หรือกรณีการกำหนดให้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของ ครม. มีอำนาจสั่งให้นายทหารยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวได้ หากกระทำการนอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อสกัดการรัฐประหารนั้น ก็ไม่ใช่ปมด้อยกฎหมายฉบับนี้ แต่เป็นการใช้อำนาจยับยั้งการรัฐประหาร เหมือนที่ สส.เกาหลีใต้ ใช้อำนาจยับยั้งการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดี ซึ่งหลายประเทศมีมาตรการเข้มข้นสกัดการยึดอำนาจ
"อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเสียงคัดค้านมาก ก็ต้องนำมาปรับปรุง จากที่หวังไว้ 100% ถ้าได้มาสัก 30-50% ก็คงพอใจแล้ว แต่คงไปสุดซอยไม่ได้แล้ว" นายประยุทธ์ ผู้เคยเสนอ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย จนนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมือง ระบุ
เมื่อถามว่า เกรงว่าการเดินหน้าเสนอกฎหมายฉบับนี้ จะสร้างความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกองทัพหรือไม่ นายประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้กลัวขัดแย้งกับกองทัพ แต่ต้องเคารพเสียงของสังคม ถ้าสังคมไม่เอาด้วย ต้องนำกลับมาทบทวนใหม่