xs
xsm
sm
md
lg

“ไพศาล” เปรียบ “ธงทอง” ตาเถรร่างจระเข้ เสแสร้งห่วงใยม็อบสนธิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“ไพศาล” ซัด “ธงทอง” แสร้งทำทีห่วงใย “สนธิ” จัดชุมนุมมีแต่คนแก่มาร่วม ชี้เป็นนักวิชาการมีชื่อเสียง รู้ราชนิติประเพณีอย่างดี แต่เป็นคนดูที่ทางให้ทักษิณนั่งทำพิธีในวัดพระแก้ว มาวันนี้ยังได้ดิบได้ดี ทำให้นึกถึงตาเถรผู้มีอาคมกล้าทางภาคเหนือในอดีต แต่ใช้วิชาก่อกรรมทำเข็ญจนตัวเองต้องตายอย่างอนาถ

วันนี้(10 ธ.ค.) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Paisal Puechmongkol” ถึงนายธงทอง จันทรางศุ หนึ่งในคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กรณีที่นายธงทองอ้างว่าเห็นใจและเป็นห่วงการชุมนุมของนายสนธิ ลิ้มทองกุล เพราะมีแต่คนแก่มาร่วม โดยนายไพศาลได้เปรียบเปรยการแสดงออกของนายธงทองว่า เหมือนตาเถรขวาด ผู้เรืองวิทยาคมทางภาคเหนือในอดีต ที่สามารถแปลงร่างเป็นจระเข้ได้ แต่ได้ใช้วิชาคมนั้นก่อกรรมทำเข็ญให้แก่ผู้คนมากมายจนในที่สุดก็ต้องตายอย่างอนาถ

รายละเอียดข้อความของนายไพศาล มีดังนี้

ธงทอง แสดงความห่วงใย ม็อบสนธิ ว่าเป็นผู้สูงวัย เกรงว่าจะเป็นลมเป็นแล้งและลูกหลานจะลำบาก จึงนึกถึงแผ่นเสียงตกร่องหรือเทปคาสเซ็ตที่ไม่มีเครื่องเปิดในปัจจุบันนี้

จะมีใครสักกี่คนเห็นน้ำใจนี้ว่าเมตตา และ เลิกลงถนนกัน

ขรัวช่างมีจิตใจ เมตตาเสียเหลือเกิน ช่างกล่าววาจายอกย้อนจนคนทั้งหลายอาจคิดไม่ทัน คงคิดว่าไม่มีใครรู้จักกระมัง

อันน้ำตานั้น ไม่ใช่สิ่งแสดงออกซึ่งความเสียใจเสมอไป ดังเช่นน้ำตาจระเข้ ที่เวลาจะขม้ำหยื่อก็มักจะมีน้ำตาไหลออกมา

คุณธงทองเป็นนักวิชาการ ที่มีชื่อเสียงมาก มีภาพลักษณ์รู้ราชนิติประเพณีเป็นอย่างดี จึงมักเป็นวิทยากรในพิธีการสำคัญอยู่เสมอ

และอาจารย์ธงทองคนนี้แหละ ที่ไปดูที่ทางให้นายกทักษิณนั่งในวัดพระแก้วเมื่อครั้งทำบุญประเทศอันลือลั่นสนั่นเมืองมาแล้ว

และยังเป็นผู้ที่มีเครือข่ายใกล้ชิดกับขบวนการไสยศาสตร์ทางกฎหมายของประเทศไทยมาช้านาน

มาวันนี้ก็ยังคงได้ดิบได้ดีช่วยงานสำคัญในรัฐบาลอยู่มาก

ดังนั้นความเห็นอกเห็นใจของท่านอาจารย์ธงทอง คงไม่อาจทำให้มวลมหาประชาชนชาวไทย ที่ใฝ่ใจรักชาติบ้านเมือง หวงแหนเอกราชอธิปไตย และ ต่อต้านการโกงบ้านกินเมืองเขาหวั่นไหวหรอกนะครับ

ผมเองเห็นข่าวเรื่องนี้แล้ว ใจก็นึกถึงตาเถรขวาด ผู้เรืองวิทยาคม ทางภาคเหนือในอดีต สามารถแปลงร่างเป็นจระเข้ได้ แต่ได้ใช้ วิชาคมนั้น ก่อกรรมทำเข็ญให้แก่ผู้คนมากมาย จนในที่สุดก็ต้องตายอย่างอนาถท่ามกลางความเหยียดหยามของผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น