“อิงฟ้า” รับห่วง “ชาล็อต” หลังโดนมิจฉาชีพ หลอกเงิน 4 ล้าน และบังคับวิดีโอคอล 24 ชม. เผยส่วนตัวก็ยังไม่ได้นอน ตามเรื่องกับเลขาน้องทั้งคืน บอกไม่รู้รายละเอียดมาก รอ “บอสณวัฒน์” กลับจากตปท.อาจจะตั้งโต๊ะแถลง เล่าเคยเจอ แต่ตั้งสติทัน ตอนนี้ไม่รับเบอร์แปลกแล้ว เพราะอันตรายรอบด้าน
ทำเอาตกใจไปตามๆ กัน สำหรับกรณีที่เพจ Miss Grand Thailand ได้ออกมาโพสต์แจ้งข่าว ว่าสาว “ชาล็อต ออสติน” ถูกมิจฉาชีพหลอกเงิน 4 ล้านบาท พร้อมยังบังคับให้วิดีโอคอล 24 ชั่วโมง โดยล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้เจอพี่สาวคนสนิทอย่าง “อิงฟ้า วราหะ” เจ้าตัวก็ได้อัปเดตความคืบหน้าให้ฟัง ว่าตอนนี้ชาล็อตปลอดภัยดีแล้ว และอยู่ในการดูแลของบริษัท แต่ยังมีความตื่นตระหนกตกใจอยู่ ซึ่งในส่วนของรายละเอียดต่างๆ คงต้องรอให้น้องมาบอกเอง
“ทราบตั้งแต่เมื่อคืน แต่ไม่ได้ทราบแน่นอน จริงๆ ในตารางน้องมีไลฟ์กับทีมหยดฝนกลิ่นสนิม แล้วก็ได้ทักไปว่าน้องอยู่ไหน ก็มี AR ได้ทราบแล้ว ว่าตอนนี้น้องติดภารกิจอยู่ที่สน. เลยทักไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องก็บอกยังพูดอะไรไม่ได้ เหมือนต้องรอผู้การสรุป พอไลฟ์เสร็จไป 2 ชั่วโมง ก็ยังเงียบไป ไม่มีใครติดต่อได้ ตัวเราก็สบายใจ ด้วยความเป็นห่วงก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็รอกันไปจนถึงตี 2 ก็ได้ถามน้องที่เป็นเลขาของเขา ว่ามีอะไรให้เราช่วยไหม เหตุการณ์เป็นยังไงบอกได้นะ กลัวไม่มีผู้ใหญ่ ไม่มีใครอยู่ด้วย เพราะน้องก็อาจจะตกใจ”
“ตอนแรกไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรมาก จนตี 4 น้องก็ไปลงบันทึกประจำวันเรียบร้อย สรุปเหมือนน้องเองก็ไม่ได้แจ้งกับเราโดนตรงตั้งแต่แรก ด้วยความที่กลัวด้วย แล้วตอนนั้นมิจฉาชีพในสาย มีการพูดข่มขู่ ว่าไม่ให้พูดเรื่องจริงว่าอยู่ที่ไหน แต่เบื้องต้นคือน้องปลอดภัยดี ตั้งแต่เมื่อคืนก็ยังไม่ได้มีการปะทะกับอะไร เพียงแต่มิจฉาชีพให้วิดีโอคอล เพื่อไม่ให้ติดต่อกับพูดคุยกับใคร คุยกับน้องบอกว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ น้องก็กลัวเขาเจาะข้อมูล ว่าคุยกับใครอยู่ตรงไหน น้องก็ส่งมาแล้วลบ คือตัวน้องก็กลัวด้วย น่าจะทำอะไรไม่ถูก ตอนนั้นเราก็ยิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่ ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ทำอะไร”
“ภาพรวมก็น่าจะออกมาตามที่ทุกคนได้เห็น ก็คือเป็นมิจฉาชีพที่มีการหลอกให้โอนเงินไป 3 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท อัปเดตก็มีได้โทร.ไปตอนเช้า ที่ได้ทราบข้อสรุปจริงๆ หนูก็ไม่กล้าไปเร่ง เพราะหลายๆ คนก็น่าจะทราบเท่าๆ กัน จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้นอนเหมือนกันค่ะ เหมือนน้องเพิ่งได้กลับไปพักตอนเกือบตี 5 คือตอนนั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอเขขาติดต่อกลับมาว่าอยู่ตรงไหน น้องตอบฟ้าสิ้นสุดแค่ช่วงเวลาที่เราเสร็จสิ้นภารกิจตอนไลฟ์ แต่ได้มีการคุยกับเลขาเขาเป็นระยะ ว่าน้องอยู่ในกระบวนการไหน”
“คือเหมือนน่าจะเป็นการหลอกล่อ ว่าเป็นการฟอกเงิน ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน คล้ายๆ เปิดบัญชีม้าประมาณนั้นค่ะ ก็อาจจะต้องรอให้น้องมาอธิบาย ว่าในการพูดคุยเจรจาเป็นยังไง แต่เท่าที่ทราบตอนนี้ก็ได้พักผ่อนอยู่ แล้วก็มี AR ของทางองค์กรดูแลน้องอยู่ค่ะ (เราก็ไม่ได้หลับได้นอน?) ฟ้าก็พยายามติดต่อเลขาน้องตลอด เดากันไปต่างๆ นานา ว่าเรื่องนี้เรื่องนั้นหรือเปล่า เพราะไม่ใครรู้เลยว่ามันคืออะไร ก็คุยกันตลอดทั้งคืนกับทางพี่เลขาและ AR แต่เท่าที่ทราบก็คือน้องปลอดภัยดี ไม่มีอะไรค่ะ”
รอ “บอสณวัฒน์” กลับมาเคลียร์ อาจจะตั้งโต๊ะแถลงข่าว
“ตอนนี้บอสอยู่ฟิลิปปินส์ ช่วงนี้ก็น่าจะมีเรื่องให้เครียดเยอะ คิดว่าเสร็จภารกิจของเขา ก็น่าจะรีบกลับมา ก็ดูเป็นห่วงแหละค่ะ แกเป็นห่วงทุกคนในองค์การอยู่แล้ว โดนเฉพาะเรื่องนี้ คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ ที่ทางบอสและชาล็อตอาจจะมาแถลงข่าวอีกทีก็ได้ถึงรายละเอียด เพราะน่าจะมีคนอยากทราบไว้เป็นอุทาหรณ์ด้วย”
ส่วนตัวเคยโดนแต่ตั้งสติทัน แนะใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน ค่อยๆ คุย
“ส่วนตัวหนูก็เคยโดนโทร.มา เป็นตำรวจเลย บอกว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน ซึ่งแว๊บแรกเราก็ต้องตั้งสติก่อน ก็ถามเขาว่าชื่ออะไร ทำหน้าที่อะไร อยู่สน.ไหน ถามประมาณ 3 รอบจนเขาเริ่มหงุดหงิด ตอนแรกว่าจะตัดสาย แต่เคยมีประสบการณ์ว่าตัดสายแล้วเขาเปลี่ยนเบอร์ใหม่โทร.มาเรื่อยๆ ซึ่งก็เลยให้พี่ซันคุย เขาก็หัวเราะ เราเลยบอกว่าทำไมหัวเราะ หนูไม่โอเคนะ เขาก็พูดคำหยาบแล้วก็ตัดสายไป หลังจากนั้นก็ไม่โทร.มาอีกเลย”
“แต่หนูว่าพออยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ บางคนตื่นตระหนก มันต้องใจเย็นๆ จริงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็อยากจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ว่าหลักการทำงานของตำรวจ ถ้าเรากระทำความผิดจริงๆ อย่างมากเขาจะโทร.เรียกเราไปสอบถามที่สน. จะไม่มีการสอบถามข้อมูลเชิงลึกผ่านทางออนไลน์แน่นอน อยากให้ทุกคนรับทราบตรงนี้ไว้ ถ้าเราไม่สบายใจจริงๆ ก็สามารถสอบถามเขาได้ ว่าโทร.จากสน.ไหน แล้วค่อยไปเช็กว่าเรามีเหตุอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ใจเย็นๆ”
ตอนนี้แทบไม่รับเบอร์แปลก เพราะอันตรายรอบด้าน
“มันปราบปรามไม่ได้อยู่แล้ว แล้วมันตามตัวยากมากๆ มันเกิดขึ้นเยอะมากๆ ด้วยในช่วงนี้ อยากให้ระวังกัน หลังๆ มาหนูแทบไม่รับเบอร์แปลกเลย คิดว่าถ้าติดต่องานก็ผ่านทางกองไปเลย บางทีการพูดคุยก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร เผลอๆ ดึงเสียงเราไปดัดแปลงอีก ก็อันตรายรอบด้านค่ะ หลังจากนี้ก็เดี๋ยวรอทางบอสกับน้องออกมา เพราะน้องอาจจะยังตื่นตระหนกด้วย”