“หนุ่ม กรรชัย” สวนกลับ “ทนายประมาณ” อย่าขี้ตู่! ผมไปสนิทกับ “ฟิล์ม” ตอนไหน? ยันไม่อโหสิ ไม่ให้อภัย ผมไม่ใช่พระ

สวนกลับแบบทันควัน! ไม่ต้องรอให้ครบ 24 ชม. หลังจาก “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์”พร้อม “ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” ทนายความคนใหม่ รับไม้ต่อจาก “ทนายสาคร ศิริชัย” เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ณ กองบังคับการปราบปรามในช่วงสายที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้มีการให้สัมภาษณ์ โดยบางช่วงบางตอนทนายประมาณ ได้พูดถึง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”กรณีที่โดยแอบอ้างเอาชื่อไปเรียกเงิน 20 ล้าน พามาออกรายการ โหนกระแส ทนายคนดังยืนยันว่าถ้าตนเองโดนแบบนี้ ก็จะให้อภัยฟิล์ม รัฐภูมิ เนื่องจากสนิทกันอยู่แล้ว

“เรื่องหมิ่นประมาทกับคุณหนุ่ม ผมดูจากข้อความแล้ว ไม่เห็นมีคำไหนไปใส่ความคุณหนุ่ม ไม่ได้ไปว่าคุณหนุ่มว่าเป็นคนไม่ดี จนทำให้สังคมดูหมิ่นเกลียดชังคุณหนุ่ม เพราะองค์ประกอบมันไม่เข้าครับ หรือว่าเป็นการเลยเถิด ล้ำเส้น สนิทสนมกับคุณหนุ่มจนเกินไป เพราะฉะนั้นผมก็มองว่าเข้าเกณฑ์ไม่เป็นความผิดทางกฎหมาย และเรื่องหมิ่นประมาทเองก็ไม่ได้มีการจะใส่ความคุณหนุ่ม เพราะเขาก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ก็มีการขอโทษ แต่การพูดอาจจะมีเกินเลย ล้ำเส้น ก็ขอโทษคุยกัน ถ้าผมเป็นพี่หนุ่ม ผมก็โอเค ให้อภัยน้องได้”

จากนั้น “หนุ่ม กรรชัย” ก็ได้ชี้แจงผ่านรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ถึงประโยคนี้ที่ทนายประมาณได้ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่าไม่ได้สนิทกัน และการที่ถูกเอาชื่อไปแอบอ้างเรียกเงิน 20 ล้าน เพื่อมาเคลียร์ตัวเองในรายการโหนกระแสนั้น แบบนี้ยังไม่เสียหายพอเหรอ รวมไปถึงยืนยันว่าไม่มีการให้อภัยแต่อย่างใด

“ผมขอเรียนอาจารย์ประมาณว่า ใครเป็นน้องผมครับอาจารย์ ฟิล์มกับผมนะครับ คือเป็นแค่คนรู้จัก แล้วก็ไม่ได้คุ้นเคยกัน ไม่ได้สนิท อาจารย์จะมาขี้ตู่แบบนี้ไม่ได้นะครับ ผมก็เคารพนับถืออาจารย์นะ ฉะนั้นเวลาไปพูดกับสื่อ เดี๋ยวสื่อจะเข้าใจผิดว่าสนิทกับฟิล์มรัฐภูมิ ถ้าถามว่ามีความคุ้นเคยไหม ก็ไม่เคยคุ้นเคยกัน อย่างนาย (ณภัทร เสียงสมบุญ) , บิวกิ้น (พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) , โอ๊ต (ปราโมทย์ ปาทาน) , กลัฟ (คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์) , วิน (เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร) อย่างนี้เรียกว่าคนคุ้นเคย กับฟิล์ม รัฐภูมิไปคุ้นเคยกันตอนไหน เคยเล่นละครด้วยกัน ก็แค่เล่นละคร ก็แยกย้ายกันไป ต่างคนต่างทำมาหากิน วันดีคืนดีก็ติดต่อผมมา เดี๋ยวจะติดต่อบอสพอล (วรัตน์พล วรัทย์วรกุล) มาออกโหนกระแสนะ หรือบางทีก็บอกว่ามีผู้เสียหายอยากมาออก ถามว่าทำไหม ถ้าเราดูว่ามีข้อมูล ก็ทำ อย่างนี้เรียกว่าคุ้นเคยยังไงครับ”

“และผมไม่ได้เป็นคนใจกว้างขนาดนั้นครับ ที่จะต้องมาอโหสิ ให้อภัย ผมไม่ใช่พระ และที่สำคัญที่สุด การที่อาจารย์บอกว่าผมไม่เห็นเสียหายตรงไหนเลย ไม่ได้เข้าหมิ่นประมาท งั้นผมขอยืมชื่ออาจารย์ เดี๋ยวผมไปบอกว่าติดต่ออาจารย์ไว้แล้ว แต่อาจารย์เรียก 20 ล้าน เดี๋ยวทำคดีให้ ทั้งที่อาจารย์ไม่รู้เรื่องเลย อาจารย์รับได้ไหมครับ อย่างนี้ ผมไม่เสียตรงไหน ผมยังคิดไม่ออกเลย นี่ด้วยความเคารพอาจารย์นะครับ แต่อาจารย์ต้องฟังผมบ้างนะครับ ไม่ได้ฟังแค่มุมเดียว เข้าใจว่าฟิล์มเป็นลูกความนะครับ แต่ผมว่ามันไม่เหมาะ โดยที่พูดถึงผม โดยไม่ได้ฟังผมเลย ตามนั้นครับอาจารย์ครับ”

“จะให้ผมไม่โกรธได้ไง การที่พูดว่าอ้างว่า กรรชัยเรียก 20 ล้าน มารายการโหนกระแส เดี๋ยวหาทางลงให้ มันชัดเจน จนไม่รู้ว่ามันจะชัดเจนยังไง คำพูดมันชัดเจน มันยังก้องอยู่ในหูของผมอยู่ตลอดเวลา ผมขอถามกลับแบบนี้นะครับ ถ้าวันนั้นผมไม่ได้เอาคลิปนี้มาเปิดในรายการนี้ เป็นคนแรกที่เปิด แล้วถ้าคลิปนี้มันไปอยู่ที่อื่นก่อน มันจะถูกตัด ถูกซอย และถ้าคู่กรณีผมบางคนเอาไปเปิด และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัยร่วมด้วย ผมจะเป็นยังไง หรือต้องรอให้ถึงตรงนั้นก่อน ผมจึงเป็นผู้เสียหายใช่ไหม มันไม่ถูกต้อง การเอาชื่อใครคนหนึ่งไปแอบอ้าง คุณจะว่าเป็นการทำพีอาร์ ก็เรื่องของพีอาร์ของคุณ แต่จะมาบอกว่ากรรชัยเรียก 20 ล้าน เพราะในคลิปนั้น บอกว่ากรรชัยเป็นคนเรียก แล้วผมไม่เสียหายตรงไหน ผมถามแค่นี้”