ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันเรือใบนานาชาติชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า และส่งเสด็จฯ พระราชินีร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2567
เมื่อเวลา 07.09 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2567 ณ โรงแรมบียอนด์ กะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันในทีมเรือใบวายุ รุ่นไออาร์ซี ซีโร่ (IRC Zero) หมายเลขเรือใบ THA72
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงโรงแรมบียอนด์ กะตะ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.ร.ต.ธวัชชัย พิมพ์เมือง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 กราบบังคมทูลรายงาน นายเควินรอเบิร์ต วิทคร๊าฟท์ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายประมุขพิสิฐ นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหารเครือกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท คณะกรรมการจัดงาน นักกีฬา ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่โรงแรมบียอนด์ กะตะเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น เวลา 08.43 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปชายหาดกะตะ หน้าโรงแรม บียอนด์ กะตะ เพื่อประทับเรือพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังเรือใบ THA72 เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเรือใบ THA72 เรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินกลับโรงแรมบียอนด์ กะตะ
สำหรับการแข่งขันเรือใบนานาชาติชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 36 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-6 ธันวาคม 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานกีฬาเรือใบตามรอยพระบาทของสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นนักกีฬาเรือใบที่ทรงพระปรีชาสามารถ และประสบความสำเร็จอย่างงดงามในระดับสากล ดำเนินตามพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขันเรือใบระดับโลกของไทย ดึงดูดการแข่งขันเรือใบระดับกรังด์ปรีซ์ รายการ 52 Super Series ให้สนใจเข้ามาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทยเพื่อฝึกฝนทักษะและพัฒนาการเล่นในสนามระดับสากลของนักกีฬาเรือใบไทย เป็นการเฟ้นหานักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจเรือใบและการท่องเที่ยวทางทะเลมีการเจริญเติบโต เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
