จับตาอนาคตไร่ภูนับดาว สปก.สระบุรีขอร้องหยุดกิจการ ทบทวนการอนุญาตให้ใช้ที่ดิน

สำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สั่งให้ ส.ป.ก.สระบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาทบทวนคําสั่งอนุญาตให้ใช้ที่ดิน ภูนับดาว พร้อมขอความร่วมมือให้หยุดประกอบกิจการ จนกว่าคำสั่งเป็นที่ยุติ พบทางไร่ระบุ ขออนุญาตทําสัญญาเช่า กับ ส.ป.ก.สระบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2567 สาวไทม์ไลน์พบจังหวะช่วงที่ ส.ป.ก.จังหวัดคนเก่าลาออก คนใหม่เข้ามาเซ็นสัญญาเช่า ก่อนสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ ล่าสุดยังไม่ประกาศหยุดประกอบกิจการตามที่ขอแต่อย่างใด

หลังจากที่เป็นประเด็นข่าวมาตลอดนับสัปดาห์ กรณีไร่ภูนับดาว ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่ถูกหลายหน่วยงานกำลังตรวจสอบ หลังพบว่ามีการโยงเส้นเงิน 10 ล้านบาท จากบริษัทแห่งหนึ่ง ไปถึง น.ส. ช. หวานใจอดีตบิ๊กการเมือง ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ออกมาปฎิเสธ ยืนยันไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง และไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ นายฉัตรชัย แก้วบุตตา ประธานกรรมการบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกเอกสารข่าวชี้แจงว่า นายวิชิต พยุหนาวีชัย ดำรงตำแหน่งผู้บริหารของบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูก ส่วนการโอนเงินตามที่ถูกกล่าวหาเป็นการโอนเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้เมื่อครบกำหนด ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ

ขณะที่ไร่ภูนับดาวชี้แจงว่า ตนเองเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืนไร่ภูนับดาว เป็นฟาร์มโคนมของเกษตรกร มีแม่โคมากกว่า 400 แม่ และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ตลอดจนสวนผลไม้เพื่อแปรรูป ตั้งอยู่บนเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ได้รับการอนุญาตพร้อมทําสัญญาเช่า กับ ส.ป.ก.สระบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2567 เนื้อที่ 3 ไร่เศษ โดยผู้ได้รับสิทธิ์การเช่าเป็นเกษตรกร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ นางสาว ช. หวานใจของอดีตรองนายกรัฐมนตรี และไม่มีบุคคลใด รู้จักกับ นางสาว ช. และไม่มีเส้นทางการเงินใดเกี่ยวข้อง ตามที่ปรากฏเป็นข่าว การจัดทําพื้นที่ให้สวยงามก็เพื่อที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเชิงเกษตรมาซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมวัว และผลไม้ของทางไร่ และยืนยันว่าไม่ใช่รีสอร์ต แต่มีผู้ไม่หวังดีนําภาพของรีสอร์ทที่อื่นมาประกอบให้เข้าใจผิด

อย่างไรก็ตาม สำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ออกเอกสารข่าวลำดับขั้นตอนการตรวจสอบไร่ภูนับดาว เริ่มจากวันที่ 7 พ.ค. 2567 สํานักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 1 (ปปท.เขต 1) และ ส.ป.ก.สระบุรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีได้รับเบาะแสว่ามีการออก ส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่ปลูกสวนป่าปาง หัวช้าง-คลองไทร ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว มีเนื้อที่ประมาณ 112-3-68 ไร่ อยู่ในป่าท่าฤทธิ์ ป่าลําทองหลางและป่าลําพญากลาง (ป่าโซน F) เป็นที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว ส.ป.ก.สระบุรีได้รังวัดและจัดที่ดินให้กับเกษตรกร จํานวน 3 ราย พบ มีการประกอบกิจการฟาร์มปศุสัตว์ โดยเลี้ยงโคนม ม้า เป็ด นกกระจอกเทศ และเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวในลักษณะรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ ลานกางเต็นท์ ลานกิจกรรมและร้านอาหาร ในที่ดินจํานวน 13 แปลง ในชื่อสถานที่ว่า ไร่ภูนับดาว

วันที่ 21 พ.ค. 2567 ส.ป.ก.สระบุรี ได้แจ้งให้เกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ครอบครองที่ดินทั้ง 13 แปลง มาชี้แจงข้อเท็จจริงรวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่แล้ว สรุปว่ามีการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ 6 แปลง จํานวน 2 ราย วันที่ 30 พ.ค. 2567 ส.ป.ก. สระบุรี มีหนังสือแจ้งให้เกษตรกรทั้ง 2 ราย ปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบเข้าทําประโยชน์ ข้อ 7 (3) และ (5) คือ ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินจนเป็นเหตุให้เสื่อมสภาพต่อการประกอบเกษตรกรรม รวมทั้งไม่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างเกินสมควร หากเตือนแล้วยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ส.ป.ก.สระบุรีจะ ดําเนินการสั่งให้เกษตรกรสิ้นสิทธิการเข้าทําประโยชน์ที่ดินตามระเบียบต่อไป

ต่อมามีการยื่นคําขอรับอนุญาตใช้ที่ดินจํานวน 3 แปลง รวมเนื้อที่ 3-0-25 ไร่ เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ “โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรมนวัตกรรมยั่งยืนไร่ภูนับดาว” และ ศปจ.สระบุรี ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2567 มีมติอนุญาตให้มีการใช้ที่ดินฯ โดยการเช่า ซึ่งเป็นที่ดินแปลงเดียวกันกับที่ประกอบกิจการไร่ภูนับดาว เมื่อ ส.ป.ก. ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวว่า จึงได้มีหนังสือในเดือน ต.ค. 2567 และหนังสือด่วนที่สุด ที่ กษ 1204/6922 ลงวันที่ 13 พ.ย. 2567 แจ้งให้ ส.ป.ก.สระบุรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงและนําข้อเท็จจริงเสนอ คปจ.สระบุรี พิจารณาทบทวนคําสั่งอนุญาตให้ใช้ที่ดิน เนื่องจากยังมีประเด็นกรณีอาคารสิ่งปลูกสร้างในที่ดินที่ถูกนำไปใช้เป็นที่ทําการของบริษัท ภูนับดาว ที่ยังไม่ได้ดําเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้องตามกฎหมายของหน่วยงานอื่น และอยู่ระหว่างการดําเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาคารสิ่งปลูกสร้างที่เสนอในที่ประชุม คปจ.สระบุรี จึงยังไม่เป็นที่ยุติว่า ส.ป.ก.หรือหน่วยงานอื่นจะดําเนินการตามกฎหมายอย่างไร

"ปัจจุบัน ส.ป.ก.สระบุรี จึงได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ได้รับอนุญาตทราบว่าจะมีการทบทวนการอนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อจัดทําโครงการศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว ทั้งนี้ ได้ให้โอกาสโต้แย้งแสดงหลักฐานต่อ ส.ป.ก. สระบุรีภายใน 30 วัน และได้ขอความร่วมมือให้หยุดประกอบกิจการ จนกว่า คปจ.สระบุรี จะได้พิจารณาทบทวนคําสั่งให้เป็นที่ยุติต่อไป" เอกสารข่าวระบุ

เอกสารข่าวของสำนักงาน ส.ป.ก.ส่วนกลาง สอดคล้องกับ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2567 ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ภูนับดาว สั่งเจ้าของที่ดินชี้แจงใน 30 วัน แต่พบความผิดปกติ เพราะเดือนต่อมา (มิ.ย.2567) ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี ขอย้ายตัวเองไปอยู่พื้นที่อื่น อ้างปัญหาเรื่องสุขภาพ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรีคนใหม่ก็เข้ามารับหน้าที่แทน พบว่าทางรีสอร์ทขอขยายระยะเวลาดำเนินการแก้ไข เมื่อตรวจสอบอีกครั้งกลับพบว่าปฏิรูปที่ดินคนใหม่มีการทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดินให้กับเอกชนรายดังกล่าว ซึ่งมองว่าผิดปกติ เพราะแทนที่จะดำเนินคดี กลับไปทำเอกสารสัญญาเช่าแทน จากดำกลายเป็นขาว เรื่องนี้จึงได้มีการแจ้งไปยัง รมว.เกษตรและสหกรณ์ และมีคำสั่งย้ายปฏิรูปที่ดินคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ เข้าไปช่วยราชการที่อื่นทันที

และจากการตรวจสอบพบว่ามีการเปิดบริษัทเป็นทางการ มีกรรมการบริษัท 1 คน หนึ่งในสามคนนั้นคือ นักธุรกิจชื่อดัง เป็นผู้บริหารบริษัทที่เกี่ยวกับการเงิน และพบว่ามีเงินจากบริษัทภูนับดาว โอนเข้านักธุรกิจชื่อดังคนนี้ จึงเชื่อว่าเป็นตัวการหลักในการทำรีสอร์ทดังกล่าว และที่สำคัญในการตรวจสอบทางลับ พบว่ามีหญิงสาวคนสนิทกับอดีตรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง เข้าออกบริษัทแห่งนี้บ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้อง จนไปพบเส้นทางการเงินที่ถูกโอนจากบริษัทของนักธุรกิจผู้บริหารรีสอร์ท เข้าบัญชีของหญิงคนสนิทอดีตรองนายกฯ เป็นจำนวน 5 ครั้งในวันเดียวกัน ครั้งละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ป.ป.ท. ได้ส่งหนังสือเรียกหญิงสาวคนนี้เข้ามาชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเงินดังกล่าวถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่มา ล่าสุดจึงส่งข้อมูลไปให้กับสำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ถึงขณะนี้ไร่ภูนับดาวยังคงไม่ประกาศหยุดประกอบกิจการตามที่ ส.ป.ก.สระบุรี ขอความร่วมมือแต่อย่างใด