ประธานกรรมการ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น แจงกรณีแกะรอย "วิชิต พยุหนาวีชัย" 5 เส้นเงิน 10 ล้าน เป็นการโอนเงินค่าหุ้นกู้เมื่อครบกำหนดชำระ แต่พบโอน 5 ครั้ง ครั้งละ 2 ล้าน ไปยังหวานใจบิ๊กการเมือง กังขาเป็นธรรมเนียมของบริษัทหรือไม่?
วันนี้ (2 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายฉัตรชัย แก้วบุตตา ประธานกรรมการบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ออกหนังสือชี้แจงลงวันที่ 2 ธ.ค. ระบุว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าว เกี่ยวกับนางสาว ช, คุณวิชิต พยุหนาวีชัย เรื่องแกะรอย 5 เส้นเงิน 10 ล้าน บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้
ข้อ 1. คุณวิชิต พยุหนาวีชัย ดำรงตำแหน่งผู้บริหารของบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเป็นกรรมการของบริษัทฯ
ข้อ 2. บริษัทฯ ขอแจ้งว่า การโอนเงินตามที่ถูกกล่าวหา เป็นการโอนเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้เมื่อครบกำหนดชำระของหุ้นกู้รุ่น SAWAD236C ซึ่งเสนอขายต่อนักลงทุนประเภทสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่จำนวน 1,450 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ครบกำหนดชำระวันที่ 13 มิถุนายน 2566
ข้อ 3. การชำระคืนหุ้นกู้นี้เป็นหน้าที่ปกติตามกฎหมายที่บริษัทฯ ที่จะต้องไถ่ถอนหรือชำระให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกรายเมื่อถึงวันครบกำหนดไถ่ถอน หากไม่ชำระตามกำหนดจะถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้
ข้อ 4. บริษัทฯ ได้ดำเนินการชำระคืนเงินต้นต้นและดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดดังกล่าวทั้งหมด 459 รายการ จำนวนรวม 1,450 ล้านบาท ผ่านบัญชีเงินฝากของบริษัทที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นนายทะเบียนและตัวแทนชำระเงิน โดยการชำระเงินเป็นไปตามขั้นตอนปกติของการชำระคืนเงินหุ้นกู้
บริษัท ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีทางกฎหมายแก่คนที่มีเจตนาไม่ดีและทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งในทางตรงและทางอ้อม
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะจาก 4 หน่วยงานประกอบด้วย สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ภูนับดาว หมู่ที่ 2 ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี หลังพบว่าตั้งอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก. สั่งเจ้าของที่ดินชี้แจงใน 30 วัน
ต่อมา นายธนดล เปิดเผยว่า เรื่องนี้มีความผิดปกติ เพราะเดือนต่อมา (มิ.ย.2567) ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี ขอย้ายตัวเองไปอยู่พื้นที่อื่น อ้างปัญหาเรื่องสุขภาพ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรีคนใหม่ก็เข้ามารับหน้าที่แทน พบว่าทางรีสอร์ทขอขยายระยะเวลาดำเนินการแก้ไข เมื่อตรวจสอบอีกครั้งกลับพบว่าปฏิรูปที่ดินคนใหม่มีการทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดินให้กับเอกชนรายดังกล่าว ซึ่งมองว่าผิดปกติ เพราะแทนที่จะดำเนินคดี กลับไปทำเอกสารสัญญาเช่าแทน จากดำกลายเป็นขาว เรื่องนี้จึงได้มีการแจ้งไปยัง รมว.เกษตรและสหกรณ์ และมีคำสั่งย้ายปฏิรูปที่ดินคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ เข้าไปช่วยราชการที่อื่นทันที
หลังพบความผิดปกติเรื่องสัญญาเช่า จึงตรวจสอบรีสอร์ทแห่งนี้อย่างละเอียด พบว่ามีการเปิดบริษัทเป็นทางการ มีกรรมการบริษัท 1 คน หนึ่งในสามคนนั้นคือ นักธุรกิจชื่อดัง เป็นผู้บริหารบริษัทที่เกี่ยวกับการเงิน และพบว่ามีเงินจากบริษัทภูนับดาว โอนเข้านักธุรกิจชื่อดังคนนี้ จึงเชื่อว่าเป็นตัวการหลักในการทำรีสอร์ทดังกล่าว และที่สำคัญในการตรวจสอบทางลับ พบว่ามีหญิงสาวคนสนิทกับอดีตรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง เข้าออกบริษัทแห่งนี้บ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้อง จนไปพบเส้นทางการเงินที่ถูกโอนจากบริษัทของนักธุรกิจผู้บริหารรีสอร์ท เข้าบัญชีของหญิงคนสนิทอดีตรองนายกฯ เป็นจำนวน 5 ครั้งในวันเดียวกัน ครั้งละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ป.ป.ท. ได้ส่งหนังสือเรียกหญิงสาวคนนี้เข้ามาชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเงินดังกล่าวถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่มา ล่าสุดจึงส่งข้อมูลไปให้กับ ปปง. เพื่อดำเนินการต่อไป
กระทั่งวันที่ 1 ธ.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ตำรวจทำงานร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. รวมถึงนายธนดล ที่ไปสืบสวนกรณีไร่ภูนับดาว ตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตในหน้าที่จริง ในการออกเอกสารสิทธิ์โดยทุจริตของข้าราชการระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ส.ป.ก. ทราบว่าบริษัทที่ตรวจสอบ มีเส้นเงินไปถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ประมาณ 10 ล้านบาท เส้นเงินนี้เชื่อมไปถึงบุคคลใกล้ชิดที่เรียกว่า "หวานใจ" ขณะเดียวกัน กลุ่มคนดังกล่าวใกล้ชิดกับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
"แต่ถึงใครก็โดนหมด ขอยืนยัน มันมาถึงขนาดนี้ หากไม่ทำต่อ ประเทศไทยคงอยู่ยาก คนผิดว่าไปตามผิด เส้นเงินจะอยู่แค่ไหน หวานใจหรือผู้ใหญ่ก็ต้องรอออกหมายเรียกมาสอบสวนหรือหมายจับ จากการตรวจสอบจะมีการโอนไปครั้งละ 2 ล้านบาท จนครบจำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ยืนยันไม่ใช่การกลั่นแกล้ง หรือทำร้ายกัน แต่เป็นเรื่องของการตรวจสอบและขยายผลออกไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะช่วงนั้นตำรวจก็จับกรณี ส.ป.ก. หลายที่ เรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง มันถึงใคร ใครทำไว้ก็ต้องรับกรรมอันนั้น" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า แถลงการณ์ของนายฉัตรชัย ที่อ้างว่าการโอนเงินตามที่ถูกกล่าวหา เป็นการโอนเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้เมื่อครบกำหนดชำระของหุ้นกู้ ทำไมต้องโอนเงินครั้งละ 2 ล้านบาท จำนวน 5 ครั้ง เป็นธรรมเนียมของบริษัทดังกล่าวหรือไม่ จึงเป็นข้อสังเกตที่ยังคงต้องรอคำตอบต่อไป