ไม่ใช่แค่ยิงขู่เรือไทย ลูกเรือ ออกมายันเอง ร้องขอเร่งพากลับบ้าน
ท่ามกลางการหาสาเหตุที่ทหารเรือเมียนมา ยิงเรือประมงของไทยในบริเวณพื้นที่พิพาทกลางทะเลของทั้งสองประเทศ ปรากฎว่าประเด็นที่น่าวิตกในเวลานี้ คือ การเร่งประสานงานเพื่อขอให้ทางการเมียนมาปล่อยตัวลูกเรือไทยที่ถูกจับไปจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจนถึงเวลานี้รัฐบาลเองก็ยังไม่กล้าออกมาการันตีถึงความชัดเจนแน่นอนในการนำตัวคนไทยกลับประเทศแต่อย่างใด
พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 พร้อมด้วย พลเรือตรี ภุชงค์ รอดนิกร รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 รองผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 และ ผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยฝ่ายอำนวยการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมบำรุงขวัญและให้กำลังใจ นายศรีเพ็ชร อายุ 44 ปี ไต้ก๋งเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกเรือรบของประเทศเพื่อนบ้านยิง บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพยามจังหวัดระนอง ขณะทำการประมงพร้อมกับกลุ่มเรือประมงในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
พลเรือโท สุวัจ ยืนยันว่า ลูกเรือที่ถูกจับกุมไปเป็นอย่างไรโดยในเบื้องต้นจะใช้กลไกชายแดนเป็นหลักก่อน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนที่จะเข้าไปประชุมคณะกรรมการท้องถิ่นของประเทศพม่าและประเทศไทย อย่างไรก็ตามทางผู้บัญชาการทหารเรือได้มอบหมายให้กองเรือภาคที่ 3 ประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องชาวประมงขอให้มีการระมัดระวังให้อยู่ในขอบเขตและอยู่ในพื้นที่เส้นปฏิบัติการของกองทัพเรือซึ่งขณะนี้ได้มีการไปอำพันผ่านทางศลชล.จังหวัด ผ่านทางศูนย์ควบคุมภายในจังหวัดต่างๆให้แจ้งเตือนกับพี่น้องชาวประมงทั้งหมดไม่ให้ออกนอกเส้นปฏิบัติการที่กำหนดไว้
นายศรีเพ็ชร อายุ 47 ปี ไต๋เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้เข้าไปจับปลาบริเวณจุดเกิดเหตุและได้เก็บอวนขึ้นมากองบนเรือจู่ ๆ ก็มีเรือวิ่งเข้ามาทางท้ายเรือขวา ซึ่งลูกชายที่นั่งมาด้วยเห็นว่าเป็นเรือรบของทหารเรือเมียนมา ตนเองตกใจได้เร่งเครื่องยนต์ขับเรือออกจากจุดเกิดเหตุ
ซึ่งบริเวณหัวเก๋งเรือรอบเรือที่อยู่ด้านบนถูกยิงด้วยอาวุธปืนหนัก ตนเองต้องหมอบให้ต่ำแล้วขับเรือออกอย่างรวดเร็ว พร้อมสั่งให้ลูกน้องที่อยู่บนเรือนอนราบให้หมดเพื่อความปลอดภัยโดยเรือประมงที่อยู่บริเวณนั้นมีประมาณ 20-30 ลำ ต่างพากันขับหนี ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุเป็นน่านน้ำประเทศไทย อยากฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยเหลือเรือประมงอีก 1 ลำที่ถูกจับไป ซึ่งก่อนหน้านี้ทางรองนายกรัฐมนตรีให้ข่าวว่าทหารเมียนมายิงปืนขู่ แต่ตนเองมองว่าไม่ใช่เป็นการยิงปืนขู่ เพราะลูกกระสูนปืนยิงเข้ามาที่เก๋งเรือและอุปกรณ์เรือได้รับความเสียหายซึ่งรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เพราะการถูกยิงในครั้งนี้ตนเองจะเอาชีวิตไม่รอด
ด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวิตข้อมความทางX ว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์เรือประมงของไทย พร้อมลูกเรือที่ถูกเรือของทางการเมียนมาจับกุมและลากเข้าฝั่งเมียนมาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองทัพเรือ และกระทรวงการต่างประเทศ เร่งประสานกับฝ่ายเมียนมา เพื่อช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน ล่าสุดได้รับแจ้งว่ามีการดำเนินการประสานกับฝ่ายเมียนมาแล้ว ผ่านช่องทางทหารและการทูต และจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นได้รับทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย มาพบในวันที่ 2 ธันวาคม เพื่อรับทราบข้อกังวลอย่างเป็นทางการด้วยแล้ว
ในโอกาสนี้ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงขอแสดงความห่วงใยต่อลูกเรือประมงที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าวทุกคน หน่วยงานของไทย กำลังดำเนินการประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับการดูแลและมีการส่งกลับภูมิลำเนาโดยเร็วที่สุด