กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน และสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) เปิดงาน TAIWAN EXPO 2024 in Thailand อย่างเป็นทางการ โดยรวบรวมบริษัทชั้นนำจากไต้หวันกว่า 26 บริษัท มาร่วมจัดแสดงในโซน Taiwan Healthcare Pavilion เพื่อนำเสนอสินค้าและนวัตกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย อาทิ AI และ ICT พร้อมโซลูชันที่จะมาเปลี่ยนแปลงการดูแลสุขภาพในอนาคต ด้วยการผนึกกำลังเป็นอุตสาหกรรม Smart Medical & Smart Healthcare ที่จะช่วยยกระดับการให้บริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพด้วยความไฮเทค ล้ำสมัย และน่าจับตามองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
โดย Jessie Tseng, Deputy Executive Director Service Industry Promotion of TAITRA เปิดเผยว่า “จากผลสำรวจของ NUMBEO ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งของไต้หวันที่ดูแลเรื่องดัชนีชี้วัดคุณภาพ มาตรฐานด้าน Medical และ Healthcare ในระดับชั้นนำ พบว่าปัจจุบันเราเป็นผู้นำอันดับ 1 ในด้านของ Medical ที่มีความแข็งแกร่งในด้านของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือ ICT อย่างมาก ขณะที่ประเทศไทยติดอันดับ 9 ของการจัดอันดับ
ดังนั้นจึงจัดให้มีโซน Taiwan Healthcare Pavilion ในงาน Taiwan Expo 2024 in Thailand ครั้งที่ 8 ประจำปี 2567 โดยกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจ และสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ ทั้งในส่วนที่เป็น Smart Medical และ Smart Healthcare เพิ่มมากขึ้น อาทิ ห้องพักผู้ป่วยอัจฉริยะ หรือ Smart Ward พร้อมเปิดพื้นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์พิเศษอื่น ๆ จากไต้หวันอีกมากมาย
โดยมองว่าทั้งประเทศไทยและไต้หวัน มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งสังเกตจากสัดส่วนแรงงานวัยทำงานกำลังลดลงเรื่อย ๆ จึงมองว่าอุตสาหกรรม Smart Medical และ Smart Health care จะกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ควบคู่กับการร่วมมือสร้างจุดแข็งทางด้านเทคโนโลยี Medical และ Healthcare ไปด้วยกัน
สำหรับโซน Taiwan Healthcare Pavilion ในปีนี้ ทางไต้หวันได้คัดเลือกผู้ร่วมจัดงานแสดงสินค้า จำนวน 26 ราย โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มโรงพยาบาล, คลินิก ซึ่งกลุ่มนี้มีการบูรณาการเพื่อนำเทคโนโลยีด้าน ICT มาใช้ดูแลผู้ป่วยกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว
และ 2. กลุ่มที่ใช้เรื่องของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาเป็นเครื่องมือ เพื่อช่วยเรื่องบริการแพทย์ทางไกล และการใช้ AI มาช่วยดูแลวินิจฉัยผู้ป่วยผ่านข้อมูลการรักษาของผู้ป่วย เพื่อให้เกิดการวิเคราะห์โรคและกำหนดแผนการรักษาที่แม่นยำมากขึ้น เช่น การใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ที่ใช้ AI มาช่วยสแกน ทำให้เห็นถึงจุดที่มีปัญหาด้าน Medical และ Healthcare แบบจุดต่อจุดอย่างชัดเจน
ดังนั้นการจัดพื้นที่บริเวณ Taiwan Healthcare Pavilion ทั้งโซนห้องพักผู้ป่วยอัจฉริยะ และโซนรอบนอกที่มีบริการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์พิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย จึงเป็นเสมือนแพลตฟอร์มที่จะมาช่วยให้คนทำงานบริการด้านโรงพยาบาล, คลินิก, ผู้เชี่ยวชาญ หรือคนดูแลผู้ป่วยได้มาพบปะกัน รับชมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และทำความเข้าใจเกี่ยวนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของไต้หวัน ในส่วนที่เป็น Smart Medical และ Smart Healthcare รวมถึงเปิดโอกาสในการมองหา Buyer คนไทยที่สนใจอยากมาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับทางไต้หวันเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี จากการเข้าเยี่ยมชมงานในโซนที่เป็น Taiwan Healthcare Pavilion และห้องพักผู้ป่วยอัจฉริยะ Smart Ward ตลอดจนผลิตภัณฑ์บริการทางการแพทย์พิเศษอื่น ๆ จะเห็นถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เป็นเรื่องของ Smart Medical และ Smart Healthcare ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โรงพยาบาลไทเป หว่านฟาง (Taipei Wanfang Hospital) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ไทเป (TAIPET Medical University) ที่ได้นำ AI ด้านนวัตกรรมทางการแพทย์มาช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความจำเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงทางโรงพยาบาลได้จับมือกับบริษัท LongGood ในการพัฒนาโปรแกรม Software ที่นำระบบ AI มาช่วยตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัยผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคหลอดเลือดสมอง หรือสโตรก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้ตรงจุดและแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังร่วมกับบริษัท Dentall ในการพัฒนาโปรแกรม Dental AI หรือผู้ช่วยทางด้านทันตกรรม โดยจะมาทำหน้าที่ช่วยในการบริหารจัดการ วางแผนการรักษา และประเมินผลภายหลังการรักษาเกี่ยวกับด้านทันตกรรมทั้งหมด
โรงพยาบาล Shuang Ho Hospital ซึ่งแม้จะมาร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน Taiwan Expo 2024 in Thailand ในโซน Taiwan Healthcare Pavilion เป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านั้นก็ได้มีการลงนามเซ็นสัญญาร่วมกับโรงพยาบาลแมคคอร์มิค (Mccormick) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ ในการนำ AI มาช่วยดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท และโรคพาร์กินสัน (มือสั่น) ด้วยใช้ AI เป็นเครื่องมือผ่าตัดสมองผ่านเทคโนโลยีการรักษาแบบวิธีใช้คลื่นเพื่อปรับระบบประสาทในสมอง
โรงพยาบาลจางฮั่ว คริสเตียน (Changhua Christian Hospital) เป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่สุดในไต้หวัน มีทั้งหมด 9 สาขา จำนวนเตียงกว่า 4,000 เตียง โดยมีความน่าสนใจคือเป็นโรงพยาบาลที่มีศูนย์พัฒนา AI โดยตรง ทำให้สามารถนำ AI มาใช้เกี่ยวกับด้านการแพทย์ได้ทั้งหมด เช่น การใช้ AI ช่วยอ่านผลสรุปการรักษาคนไข้ในแต่ละสัปดาห์, การใช้ AI ช่วยดึงข้อมูลประวัติการรักษาของคนไข้ เพื่อลดขั้นตอนการทำงานของพยาบาลเมื่อต้องเปลี่ยนเวรถ่ายงานในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งช่วยให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานที่ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังได้นำ AI มาช่วยประเมินผลผ่านภาพถ่ายหลอดลมของคนไข้แต่ละคน เพื่อใช้ในพิจารณาประกอบการตัดสินใจก่อนจะใส่ท่อช่วยหายใจ สำหรับคนไข้ในห้อง ICU เพื่อลดความเสี่ยงต่อการใส่และถอดท่อช่วยหายใจในแต่ละครั้ง
ผลิตภัณฑ์ Karma แบรนด์จำหน่ายรถเข็นวีลแชร์ รุ่น Karma Ergo Lite ที่มีขนาดเล็กและคุณภาพสูงจากไต้หวัน เหมาะกับผู้ดูแลและผู้สูงอายุที่เป็นผู้หญิง เพราะเป็นรุ่นที่น้ำหนักเบาแค่ 8.5 กิโลกรัม แต่แข็งแรง คงทน สามารถรองรับน้ำหนักผู้นั่งได้สูงถึง 150 กิโลกรัม อีกทั้งเป็นรุ่นที่สามารถพับได้สะดวก เหมาะสำหรับใช้เดินทางได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ขณะเดียวกันยังได้นำรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยมาร่วมโชว์ในงานครั้งนี้ด้วย โดยเป็นรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบาเพียง 7.3 กิโลกรัม มีระบบแบตเตอรี่ที่สามารถวิ่งหรือใช้งานได้ในระยะทางถึง 25 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตลอดจนสามารถวิ่งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
รวมถึง OPCOM Medical ที่ได้นำ Smart Medical เกี่ยวกับเครื่องสอดหลอดลม และหลอดสอดท่อปัสสาวะมาจัดแสดง โดยนำเสนอเทคโนโลยีของการเป็นหลอดที่สามารถใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งได้เลย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ นอกจากนี้ขนาดของหลอดลมและหลอดสอดท่อปัสสาวะ จะต่างจากคู่แข่งในเรื่องของขนาดที่เล็กกว่าถึง 20-30 % ซึ่งส่งผลดีต่อคนไข้ที่ทำให้ไม่เกิดอาการระคายเคืองมาก ขณะที่ตัวกล้องที่ติดอยู่ตรงปลายสายของเครื่องสอดหลอดลม และหลอดสอดท่อปัสสาวะ จะให้ภาพที่คมชัด มีความละเอียดและความชัดเจนสูงสุด โดยเป็นความชัดเจนที่สูงกว่าคู่แข่งถึง 20%
ศูนย์การเจริญพันธุ์ NUWA (นิววา) สำหรับผู้มีบุตรยาก เป็นศูนย์ที่ใหญ่สุดในไต้หวัน โดยมีสถิติข้อมูลของผู้ที่มาใช้บริการจะมีโอกาสตั้งครรภ์สูงถึง 70.9% ประกอบกับกรณีผู้ที่มีอายุมากก็สามารถมาเลือกใช้ไข่บริจาคที่ถูกตามกฎหมายของไต้หวันได้จากทางศูนย์การเจริญพันธุ์ NUWA (นิววา) เพื่อใช้ทำเด็กหลอดแก้วได้เช่นกัน จึงทำให้ศูนย์ฯ แห่งนี้ ปัจจุบันเป็นเบอร์ 1 ของไต้หวัน และติดอันดับ 2 ในตลาดทั่วโลก โดยมีลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องการมีบุตรยากจากประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นบินมาเพื่อใช้บริการกับศูนย์ ฯ แห่งนี้เป็นจำนวนมาก
"ดังนั้นจึงมั่นใจว่าโซน Taiwan Healthcare Pavilion ในงาน Taiwan Expo 2024 in Thailand ครั้งที่ 8 จะมีส่วนทำให้เกิดความร่วมมือกันในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม Smart Medical และ Smart Healthcare ของทั้งฝั่งไทยและไต้หวัน ในฐานะประเทศคู่ค้าที่มีความสัมพันธ์ ทีดีต่อกันมาอย่างยาวนานในอนาคต" Jessie Tseng กล่าวปิดท้าย