กำแพงเพชร – ตามหาร่างทรงฉาว แต่โทร.ไม่รับ-ปิดบ้านเงียบ..หลังเหยื่อสาวร้องเพจดัง-แจ้งความ ตร.กำแพงเพชร โดนทักถูกทำของเขมรใส่จนชีวิตตกต่ำย่ำแย่ หลอกทำพิธีถอน-ลวงล่วงละเมิดทางเพศคาห้องน้ำสำนักฯ
กรณีมีการโพสต์ข้อความว่า ”สาวใหญ่ร้องถูกร่างทรง ล่วงละเมิดทางเพศ ทักโดนของเขมร...ต้องเอาของเขมรแก้ #นครชุม เผยแพร่ผ่านเพจ “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ก่อนที่ทีมงานจะนำผู้เสียหายเป็นหญิงชาวกำแพงเพชร 2 ราย คือ นางสาวจอย อายุ 38 ปี และ นางสาวกระต่าย อายุ 27 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร
ซึ่งมีการให้ข้อมูลว่าถูกนายอังคาร หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “อาจารย์ยอด” อ้างเป็นร่างทรงพระพิราพ ปู่ตาไฟ ตาหลวงพรานบุญ เจ้าของตำหนักแห่งหนึ่งในพื้น ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร หลอกว่าถูกคนทำของเขมรใส่และต้องทำพิธีอาบน้ำมนต์ถอนของออกจากร่างกาย หนึ่งในผู้เสียหายถูกหลอกให้ทำพิธีถึง 2 รอบ และหลอกมีเพศสัมพันธ์ในห้องน้ำภายในตำหนักวันทำพิธีไหว้ครูประจำปีของร่างทรง ซึ่งผู้เสียหายได้ไปร่วมพิธีไหว้ครูที่ตำหนักแห่งนี้เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับร่างทรงดังกล่าว สอบถามเรื่องรายว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่า “อาจารย์ยอด” ร่างทรงดังกล่าวได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมทั้งบอกว่าจะติดต่อกลับมา จากนั้นก็วางสายไป
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหลายครั้งแต่ไม่รับสาย จึงเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อฟังความฝั่งร่างทรงที่ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุล่วงละเมิดหญิงสาวที่ไปทำพิธี พบว่าบ้านปิดเงียบไม่มีคนอยู่ สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงหลังจากรู้ข่าวก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้
ชาวบ้านบางคนบอกว่า ร่างทรงก็ดูเงียบๆไม่มีอะไร เรื่องงานไหว้ครูและเหตุที่เกิดขึ้นก็นานหลายเดือนแล้ว ก็ยังงงอยู่ว่าทำไมถึงไปร้องเพจ ทำไมผู้หญิงถึงไม่ร้องทุกข์แจ้งความในวันเกิดเหตุเลย หรือจะมีปัญหาอะไรกันมากกว่านั้น
ขณะที่แอดมินเพจ “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้กำลังรวบรวมผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมคาดว่าน่าจะมีอีกหลายราย ซึ่งทางเพจก็ยินดีที่จะพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับร่างทรงดังกล่าว พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อในการทำพิธีต่างๆเพราะอาจจะถูกหลอกเสียทั้งตัวเสียทั้งเงินชีวิตย่ำแย่
จอย หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์ที่เจอว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปรับน้ำมันจากพระวัดหนึ่งมาบูชาเพื่อให้ค้าขายดี แต่ชีวิตกลับแย่ลงเรื่อยๆ จึงได้เข้าไปหาร่างทรงที่ตำหนักแห่งนี้ให้ช่วยเหลือ ซึ่งก็โดนทักกล้บมาว่า..ตนถูกทำของเขมรใส่ น้ำมันดังกล่าวที่นำมาจากพระเป็นน้ำมันผีตายโหง ทำให้ชีวิตตัองย่ำแย่ ต้องทำพิธีอาบน้ำมนต์ถอนของ
ซึ่งร่างทรงได้บอกว่าสำหรับตนนั้นต้องทำพิธีอาบน้ำมนต์พิเศษกว่าคนอื่น เพราะของเขมรที่โดนทำใส่นั้นแรงมาก หากไปที่อื่นทำพิธีจะเรียกเงินครั้งละ 4-5 พันบาท แต่ที่นี่จะทำให้ฟรี โดยให้ตนเข้าไปในห้องน้ำและได้ทำน้ำมนต์อาบให้ จากนั้นให้เปลี่ยนใส่ชุดขาว ซึ่งก็ให้ตนถอดเสื้อผ้าออกให้หมดทีละชิ้น พรัอมทั้งนำเทียนมาจุดและนำมาเขียนยันต์ลงตามร่างกายของตน
จอยบอกว่า ก่อนหน้านี้ก็ทำแบบนี้มา 1 ครั้ง แต่ครั้งนี้ได้มีเพศสัมพันธ์กับตนด้วย โดยร่างทรงได้นำเทียนมาเขียนยันต์ลงกายตนเองจากนั้นก็ได้ออกไปนำสีผึ้งและน้ำมันพืชมาทำพิธีต่อ ระหว่างนั้นภรรยาของร่างทรงได้ผลักประตูห้องน้ำเข้ามาเห็นตนแก้ผ้าจนหมด ก็ถามว่า..แก้หมดเลยหรือ ? ก่อนเรียกร่างทรงที่เป็นสามีมาทำพิธีให้ต่อ โดยได้ปิดไฟและล็อกประตูห้องน้ำทำพิธีต่อ ตนเริ่มเอะใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
จากนั้นก็ถูกให้ถอดชุดชั้นในและใช้น้ำมันพืชลูบไล้ ล้วงไปในอวัยวะเพศ จนตนตกใจปัดมือออก ซึ่งร่างทรงก็ห้ามตนส่งเสียงดัง เพราะตนถูกของเขมรเต็มๆ พระที่ไปเอาน้ำมันมาได้ทำของใส่แรงมาก ตัองทำพิธีถอนของครั้งใหญ่ ก่อนร่างทรงจะถอดกางเกงของต้วเองออก แล้วได้ใช้เทียนเขียนยันต์ตามร่างกายและลูบไล้ไปทั่วพร้อมท่องคาถาไปมา แล้วตะโกนบอกว่า ”หงษ์พราย“ มาช่วยพ่อที ตนก็กลัวของเข้าตัวจึงไม่ร้องเสียงดัง
“วันนั้นใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงในการทำพิธี ตนสังเกตุเห็นว่าอวัยวะเพศของร่างทรงแข็งตัวและถูกจับสอดใส่เข้ามาในอวัยวะเพศของตนและทำจนเสร็จกิจสำเร็จความไคร่ แล้วร่างทรงได้บอกกับตนว่า..รู้มั้ยของเขมรต้องแก้ด้วยวิธีนี้”
จังหวะนั้นตนสังเกตเห็นแสงแฟลชจากโทรศัพท์ลอกมาตามร่องของประตูห้องน้ำ จึงผลักร่างทรงออกและรีบใส่เสื้อผ้า แต่กลับถูกดึงให้ไปทำพิธีต่อ ตนรู้สึกว่ามีคนแอบถ่ายอยู่นอกห้องน้ำจึงรีบออกมาทันที ซึ่งร่างทรงก็ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตนรู้สึกกลัวและไม่กล้าสู้หน้ากลัวจะมีเรื่อง เพราะออกมาเจอหน้าภรรยาของร่างทรงก็ทำหน้าไม่ดีใส่ รวมทั้งกลัวว่าสามีจะรู้เรื่องดังกล่าว จึงเก็บเรื่องราวไว้เพียงคนเดียว แต่ก็ได้ไปพูดเตือนให้ลูกศิษย์ของตำหนักอีกคนฟังเพื่อระวังตัว จากนั้นตนก็ถูกพูดใส่ร้ายจากร่างทรงต่างๆนานาต่อเนื่อง
จนวันนี้ตนทนไม่ไหวแล้วและได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า “ ที่ถอยออกมาเพราะว่าร่างทำอัปรีย์จัญไร เทวดาครูอาจารย์ก็ยังคงรักเหมือนเดิม แต่ไม่นับถือร่าง #ป่าไผ่“ พร้อมทั้งแท็กลูกสาวและลูกเขยของตน จากนั้นภรรยาและร่างทรงพรัอมคนในครอบครัวได้มาต่อว่าลูกสาวและตนเองถึงห้องพัก บอกจะแจ้งความที่ตนโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท