วันนี้ (29 พ.ย.) จากกรณีเหตุคานปูน (Segment) และเครน (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว ตอนที่ 1 เกิดถล่มขณะกำลังเชื่อมคานปูนเข้าด้วยกัน ส่งผลให้คนงานที่ปฏิบัติงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก บนถนนพระราม 2 ระหว่าง กม.21+600 ถึง กม.22+100 ใกล้กับแยกต่างระดับเอกชัย หมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 29 พ.ย. 2567
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.15 น. ตำรวจทางหลวงนำรถเครน 3 คันวางแผนการรื้อถอนโครงการที่ถล่มลงมา คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ล่าสุดปิดการจราจรขาออกกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางเบี่ยงเข้าตัวเมืองมหาชัย โดยใช้เส้นทางถนนเอกชัย ผ่านห้างแม็คโคร สมุทรสาคร โรงพยาบาลสมุทรสาคร สี่แยกโรงพัก แล้วไปออกถนนพระรามที่ 2 อีกครั้ง ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน เพื่อมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้ต่อไป พร้อมเร่งระบายรถท้ายแถวยาว 7 กิโลเมตร ซึ่งท้ายแถวสะสมไปถึงวัดพรหมรังษี เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร อีกด้านหนึ่งยังได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์สำหรับรถที่จะเข้ากรุงเทพมหานคร ให้ใช้ถนนบ้านแพ้ว-พระประโทน (ทางหลวงหมายเลข 375) มุ่งหน้าจังหวัดนครปฐม แล้วใช้ออกถนนเพชรเกษม หรือถนนบรมราชชนนีเพื่อเข้ากรุงเทพฯ แทน
พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สารวัตรทางหลวง 1 สถานีตำรวจทางหลวงนครปฐม ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ สวพ.91 ระบุว่า จากกรณีดังกล่าว ต้องปิดการจราจรช่องทางหลักฝั่งลงภาคใต้ทั้งหมด ส่วนทางขนานวิ่งได้ 1 ช่องทาง เครื่องจักรหนักทยอยเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการยกซากที่พังลงมาแล้ว กับเคลียร์ซากส่วนที่ยังค้างบนตอม่อลงมาด้านล่าง จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการดำเนินการ จึงต้องปิดจราจรบริเวณที่เกิดเหตุทั้งหมด พร้อมทั้งปัดรถจากช่องทางขนานไปออกถนนเอกชัย ผ่านตัวเมืองสมุทรสาคร จากนั้นไปออกถนนพระรามที่ 2 อีกครั้ง บริเวณเชิงสะพานแม่น้ำท่าจีน จึงประชาสัมพันธ์ย้ำว่าให้เลี่ยงถนนพระรามที่ 2 ไปเลย โดยใช้ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ต่อเนื่องถนนเลียบคลองพิมทยาลงกรณ์ หรือใช้ถนนเพชรเกษม หรือใช้ถนนบรมราชชนนี
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เร่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้ข้อสรุปภายใน 15 วัน โดยกรมทางหลวง ได้ดำเนินการต่างๆ ตามมาตรการเผชิญเหตุ โดยประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อเร่งค้นหาผู้สูญหายเป็นอย่างแรกและช่วยเหลือคนงานผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ พร้อมลงพื้นที่กำกับดูแลผู้รับเหมาให้มีการรื้อย้ายโครงสร้างและเครื่องจักรที่เสียหายภายใต้การควบคุมของวิศวกรอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำขึ้นอีก และจึงเปิดให้ประชาชนสัญจรได้เมื่อตรวจสอบความปลอดภัยอย่างมั่นใจแล้ว ทั้งนี้ กรมทางหลวงขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างสูงต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนปลอดภัย