วันนี้ (29 พ.ย.) จากกรณีที่เกิดเหตุตัวยกแผ่นปูน หรือลอนชิ่ง ทรัส (Launching truss) ที่ใช้ก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1 หรือทางยกระดับพระรามที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นคนไทย 1 ราย คือ นายอภิวัฒน์ พะพันทาง อายุ 30 ปี และแรงงานชาวเมียนมาอีก 4 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นติดอยู่ในโครงสร้างทาง ยังนำร่างออกมาไม่ได้ ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย คนงานที่เหลือ 25 รายรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด จากคำบอกเล่าของหัวหน้าคนงานระบุว่า ตอนเกิดเหตุนั้นทุกคนกำลังทำงานกันอยู่ด้านบน พอช่วงที่กำลังจะย้ายมาทำงานอีกข้างหนึ่ง อยู่ๆ ตัวยกแผ่นปูนก็ถล่มลงมาโดยไม่มีสัญญาณใดๆ ทำให้ลูกน้องตกลงมาเสียชีวิต และบางคนเชื่อได้ว่าน่าจะถูกทับอยู่ใต้ซากคานที่ถล่มลงมา ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่จำได้คือ ภาพที่ลูกน้องตกลงมาเสียชีวิตและบาดเจ็บ
สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับ ช่วง เอกชัย - บ้านแพ้ว มีงานก่อสร้าง 10 ตอน จุดที่เกิดเหตุอยู่ตอนที่ 1 ช่วง กม. 20+295 ถึง กม. 22+474 ระยะทาง 2.179 กิโลเมตร มี บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด เป็นผู้รับจ้าง วงเงิน 1,757 ล้านบาท
ขณะที่สารวัตรตำรวจทางหลวงนครปฐม ขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้เส้นทางลงสู่ภาคใต้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางถนนพระรามที่ 2 โดยแนะนำให้ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม หรือถนนบรมราชชนนี แล้วมุ่งหน้าไปยังจังหวัดเพชรบุรี ส่วนผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นจะมีวิศวกรจากบริษัทผู้รับจ้าง และสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง เข้ามาตรวจสอบและประเมินความเสียหาย และจะมีการเตรียมนำรถเครนขนาด 400 ตัน 1 คัน และ 200 ตัน 2 คัน เข้าเคลียร์พื้นที่หลังประเมินเสร็จสิ้น ส่วนการจราจรบริเวณที่เกิดเหตุ ถนนพระรามที่ 2 มีการปิดช่องทางหลัก ให้ใช้ช่องทางขนานแทน
ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ซึ่งอยู่ระหว่างปฎิบัติราชการระหว่างการประชุม ครม.สัญจร ภาคเหนือ ได้สั่งการให้อธิบดีกรมทางหลวงให้กลับไปดูในพื้นที่ เพื่อไปดูสาเหตุ และช่วงเย็นวันนี้ตนจะกลับไปตรวจสอบในพื้นที่ด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาเคยเน้นย้ำกับผู้รับเหมามาตลอด คือ การปฏิบัติภารกิจด้วยความปลอดภัย แต่หากมีอุบัติเหตุ กรมทางหลวงก็มีสมุดพกที่จะประเมินตัดคะแนนผู้รับเหมา และประสานกับกรมบัญชีกลางเพื่อลดชั้นผู้รับเหมา กรณีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต บริษัทผู้รับเหมาจะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้ามารับงานที่อาจจะถึง 2 ปี หลังจากนั้นหากปรับปรุงจนดีขึ้นอาจจะคืนสิทธิ์ให้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นคนละบริษัทกับที่เคยเกิดอุบัติเหตุ มีผลงานที่ค่อนข้างดีแต่เพิ่งเกิดปัญหาขึ้นมา ส่วนข้อผิดพลาดเกิดจากอะไรนั้้น ขอกลับไปตรวจสอบก่อน แต่เมื่อเกิดเหตุได้สั่งการให้หยุดการก่อสร้างทันที
ที่ผ่านมาโครงการบนถนนพระรามที่ 2 อยากให้แล้วเสร็จในเดือน มิ.ย. 2568 แต่ระยะหลังมีสถานการณ์โควิด-19 เกิดขึ้น ทำให้ผู้รับเหมาทุกโครงการไม่ใช่แค่ถนนพระรามที่ 2 ขอขยายสัญญาได้ถึงสิ้นปี 2568 ซึ่งตามสัญญาถือเป็นสิทธิ์ของผู้รับเหมาที่สามารถทำได้ แต่ได้ขอความร่วมมือในเบื้องต้น ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2568 ปัญหาคือเมื่อไม่มีมาตรการที่จะลดชั้นผู้รับเหมา ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วจะไม่เป็นอะไร ซึ่งผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ถ้าเกิดลดชั้นจะทำให้กระทบต่อธุรกิจ ดังนั้น หากมีมาตรการเรื่องการลดชั้นออกมา ก็จะทำให้ผู้รับเหมาเกรงกลัว ทำให้อุบัติเหตุลดลง ส่วนตัวอยากให้ก่อสร้างแล้วเสร็จโดยเร็ว แต่ก็ต้องเน้นถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วย
ส่วน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกราย เหตุนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ประสานเรื่องการค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่อง และบริหารจัดการด้านจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ พร้อมกำชับตำรวจทั้งในพื้นที่ ตำรวจทางหลวง และอาสาตำรวจทุกนาย ให้ประชาสัมพันธ์การจราจรตั้งแต่ต้นทาง เน้นย้ำไปที่ตำรวจภูธรภาค 7 ให้มีความเด็ดขาดจริงจังในการสอบสวนว่าเหตุที่เกิดมีสาเหตุจากสิ่งใด เป็นอุบัติเหตุ ความประมาทเลินเล่อ หรือเป็นเพราะการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องมีการสอบสวนทั้งผู้รับเหมา ผู้ปฏิบัติงาน และทางบริษัทผู้รับจ้างจากโครงการ จากนี้ทางตำรวจต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างดังกล่าว อาทิ กรมทางหลวง เพื่อหาแนวทางเยียวยาความเสียหายและวางมาตรการป้องกันในอนาคต
อีกด้านหนึ่ง นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุโครงสร้างสะพานถล่มระหว่างก่อสร้างทางยกระดับ ถ.พระราม 2 ซึ่งผู้รับเหมาได้ประสานเครนยกขนาด 400 ตัน 1 คัน และขนาด 200 ตัน 2 คัน รวม 3 คัน เพื่อยกเครนที่ค้างอยู่ออก คาดว่าเครนจะมาถึงในเวลา 13.00 น. และคาดว่าจะใช้เวลาเคลื่อนย้ายความเสียหาย 2 วัน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องให้วิศวกรของบริษัทรับเหมาเจ้าของโครงการเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดหาสาเหตุอีกครั้ง