สกลนคร-หนุ่มสกลนครสุดช้ำ! ศรัทธาหลวงปู่ศิลา ยอมทุ่มซื้อใบจองพระเครื่องรุ่นยอดเศรษฐี เพิ่มกว่าตัวกว่า 27,000 บาท สุดท้ายพระเสร็จพิธีปลุกเษก เลยเวลากำหนดส่งพระก็ยังไม่ได้รับ คนขายใบจองปิดช่องทางติดต่อ โร่แจ้งความสภ.สว่างแดนดิน พบยังมีเหยื่อจากมิจฉาชีพรายนี้อีกว่า 16 ราย รวมมูลค่าเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีผู้เสียหายหลายรายถูกชายรายหนึ่ง อ้างตัวเป็นคนขายใบจองปล่อยเช่าพระเหรียญหลวงปู่ศิลารุ่นยอดเศรษฐี ที่อยู่ระหว่างทำพิธีปลุกเสก หนึ่งในผู้เสียหายคือนายนิก (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวอำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เป็นตัวแทนผู้เสียหายที่เดินทางมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน
นายนิก เปิดเผยว่าตนเป็นคนที่มีความชื่นชอบและศรัทธาหลวงปู่ศิลาอยู่แล้ว จึงอยากจะหาเหรียญที่ระลึกมาเก็บบูชาสะสมไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เลยไปค้นหาข้อมูลและวิธีการซื้อเช่าบูชาอยู่ในกลุ่มเฉพาะ ซึ่งกลุ่มเฟซบุ๊กมีสมาชิกผู้ใช้งานร่วมกว่าแสนราย
ต่อมาเมื่อประมาณช่วงเดือนกันยายนมีการจัดสร้างเหรียญหลวงปู่ศิลา รุ่นยอดเศรษฐี ตนเชื่อในพุทธคุณจะให้สมหวังด้านโชคลาภเงินทอง จึงอยากได้มาไว้ในครอบครอง จึงไปค้นหาว่ามีใครบ้างที่ปล่อยเช่า แต่เนื่องจากเหรียญยังสร้างไม่เสร็จประกอบกับรุ่นนี้สร้างเพียง 25,000 เหรียญ มีผู้ศรัทธาแห่ไปจองกันมาก เมื่อเหรียญมีไม่พอต่อความต้องการ จึงมีบุคคลหัวใสชื่อนายอธิชวัฒน์ ธนอัครทวีรักษ์ ชาวอ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อ้างมีโควตาจอง พร้อมโพสต์นำใบจองออกมาปล่อยเช่าออนไลน์ ในราคาเพิ่มเท่าตัวจากราคาของผู้จัดสร้าง
นายนิก กล่าวว่าที่ผ่านมาทุกคนที่อยู่ในกลุ่มก็รับทราบกติกาเป็นลักษณะนี้ โดยก่อนที่จะเช่าซื้อใบจองตนและผู้เสียหายรายอื่นได้ตรวจเช็คเครดิต การส่งมอบพระเครื่อง หลักฐานการโอนต่างๆ ประกอบกับการโอนเงินยังมีการถ่ายรูปคู่กับบัตรประจำตัวประชาชนส่งมาเพื่อยืนยันตัวตน สร้างความเชื่อมั่นอีกด้วย ทำให้ตนหลงเชื่อจึงตัดสินใจโอนเงินไปเช่าซื้อใบจองเหรียญหลวงปู่ศิลา รุ่นยอดเศรษฐี เนื้อซาติน ครั้งแรกในราคา 13,000 บาท
ครั้งที่สองเป็นเหรียญหลวงปู่ศิลา รุ่นยอดเศรษฐี เนื้อนวะพรายทอง ในราคา 14,000 บาท รวมแล้วเป็นเงิน 27,000 บาท พร้อมกับนัดแนะวันส่งพระ คือวันที่ 3 พ.ย.67 ต่อมาเมื่อครบกำหนดวันส่งพระ ตนได้ทวงถามแต่ถูกบ่ายเบี่ยงเลื่อนไปเรื่อยๆ กระทั่งกำหนดวันที่ 25 พ.ย.67 เป็นวันสุดท้ายที่จะให้ส่งพระ ปรากฎว่าพอติดต่อไป กลับติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง จึงเชื่อว่าพฤติกรรมแบบนี้น่าจะถูกหลอกแน่นอนแล้ว ตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สว่างแดนดิน
อย่างไรก็ตาม ยังปรากฏพบกลุ่มผู้เสียหายจากการจองพระรุ่นนี้ ในพื้นที่มีอีกจำนวนกว่า 16 ราย ซึ่งได้รวมตัวกันแจ้งความ โดยแต่ละรายให้ตนเป็นตัวแทนออกมาแฉเรื่องราวดังกล่าว จากการประเมินมูลค่าความเสียหายรวมกันแล้วประมาณเกือบ 1,000,000 บาท โดยผู้เสียหายทุกรายถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้อยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ช่วยเร่งรัดทำคดีความให้กับผู้เสียหายด้วย เพราะตนกับผู้เสียหายกว่า 16 ราย ยังมีความหวังที่จะได้เงินคืนจากมิจฉาชีพรายนี้
