นครศรีธรรมราช – ตำรวจบุกทลาย “ห้องเชือดเสี่ยแบ็งค์” หลังมีกลุ่มวัยรุ่นใช้จัดปาร์ตี้ พบเจ้าของเป็นหนุ่มนครฯ เช่าอาคารในปั๊มน้ำมันเมืองท่าศาลา ตกแต่งเป็นสถานบริการเปิดให้เช่าแบบไพรเวทชั่วโมงละ 400 บาท
วันนี้ (28 พ.ย.) พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.ท่าศาลา พร้อมกำลังตำรวจในปกครองเชิญตัว นายเอกสินธุ์ เย็นทองคำ หรือแบงค์ อายุ 24 ปี ที่มาปักหลักทำธุรกิจอยู่ในอำเภอท่าศาลา ในขณะกำลังดูแลห้องเช่าธุรกิจในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากพบว่า นายเอกสินธุ์ เป็นเจ้าของ “ห้องเชือดเสี่ยแบ็งค์” ลักลอบเปิดเป็นสถานบริการแบบไพรเวทให้กลุ่มวัยรุ่นเช่าใช้เป็นรายชั่วโมง โดยมีการติดต่อผ่านโซเชียล
หลังจากเจ้าหน้าที่ประชิดตัวแล้วได้นำไปยังสถานบริการดังกล่าว ซึ่งด้านนอกถูกปิดไว้อย่างมิดชิด มีเสียงเพลงเล็ดลอดออกมาไม่ดังมาก มีแสงสีให้สังเกตเห็นเพียงเล็กน้อย เมื่อเปิดประตูได้พบว่ามีกลุ่มควันจากการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าโขมง เจ้าหน้าที่จึงเข้าคุมพื้นที่พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงจำนวน 16 คน นั่งดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงอยู่ในอาการตกใจและพยายามอ้างว่าเป็นการจัดงานวันเกิด ภายในห้องพบว่ามีการตกแต่งคล้ายสถานบริการ มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครับ นอกจากนั้นยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดและตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของทุกราย
พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.ท่าศาลา ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติการณ์ของ นายเอกสินธุ์ ผ่านโซเชียลมาระยะหนึ่งแล้ว พบมีการเปิดให้บริการตามที่ปรากฎ โดยมีการเปิดให้เช่ารายชั่วโมง ส่วนใหญ่จะมาปาร์ตี้กันต่อหลังจากที่สถานบันเทิงที่ได้รับอนุญาตปิดบริการแล้ว
การสอบถามข้อมูลจากผู้เข้าใช้บริการได้ความว่า ได้มีการจองห้องจัดงานวันเกิดย้อนหลังให้เพื่อน โดยจองตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. เวลา 22.00 จนถึง 05.00 ของวันรุ่งขึ้น และได้โอนเงินค่าห้องให้ นายเอกสินธุ์ ไปในราคา 1,400 บาท จึงทำการคุมตัว นายเอกสิทธิ์ เจ้าของสถานที่ส่งพนักงานสอบสวน ส่วนผู้เข้าร่วมทั้ง 16 คนนั้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายจึงได้ว่ากล่าวตักเตือน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบละเอียดพบว่ามีเยาวชนต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 ราย แต่ไม่พบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายอื่น จึงเรียกผู้ปกครองมารับตัวและว่ากล่าวตักเตือน ส่วน นายเอกสินธุ์ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา 1.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ (Instagram ), 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่หรือบริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงหรือร้านค้าในบริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และ 3.จำหน่ายสุราแก่เด็กไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์