วันนี้ (27พ.ย.) เวลา 15.00 น. พนักงานสอบเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพบศพในบ้านหลังกำแพงสนามบินกองทัพภาคที่ 4 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายในบ้านหลังนี้พบเป็นบ้านชั้นเดียวภายในมีแท่นบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในห้องพบศพแรกเป็นหญิงสภาพศพเสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 10 วัน สภาพเน่าเฟะ ทราบชื่อภายหลังคือนางสาว เกศชฎา สมาธิ อายุ 57 ปี ชาวตำบลปากพูน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมพบที่นอนเก่าเปื่อยยุ่ยบนพื้นมีมุ้งเก่าปิด มีกลิ่นเหม็นสาบ หลังจากนั้นจึงรื้อกลับว่ามีอีกศพเสียชีวิตมาแล้วมากว่า 2-3 เดือน สภาพเนื้อเยื่อยเปื่อยแห้งไปหมดแล้วเหลือเพียงบางส่วน โดยรายนี้พบว่าเป็นนายสำเริง สมาธิ อายุ 87 ปี บิดาของผู้ตายรายแรก
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลได้ความว่าก่อนที่จะมาพบศพได้มีญาติของผู้ตายทั้งคู่เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าวโดยเพื่อพยายามเยี่ยมพ่อของนางสาวเกศชฎา เมื่อหลายเดือนก่อนนางสาวเกศชฎาไปรับพ่อมาดูแลที่บ้านหลังนี้ แต่หลังจากนั้นเมื่อมีใครมาเยี่ยมจะไม่ยอมให้ใครเข้าไปในบ้าน จนหลายเดือนผ่านไปไม่มีใครทราบข่าวอีกเลยเนื่องจากผู้ตายไม่ยอมติดต่อใครจนกระทั่งมีญาติตัดสินใจมาดูที่บ้านกลับพบกลิ่นเหม็นเน่าโชยอย่างรุนแรง พบว่านางสาวเกศชฏาตายอยู่ในบ้าน แต่ไม่เห็นนายสำเริง จากนั้นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบจนกระทั่งพบว่านายสำเริงเสียชีวิตไปนานแล้วเช่นกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องนำร่างของนางสาวเศชฏาและพ่อไปตรวจสอบหาสาเหตุการตายอย่างละเอียด และเร่งรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวน ทำสำนวนคดีไต่สวนสาเหตุการตายไปตามขั้นตอนแล้ว