“สุริยะ-รฟท.”ยันต้องเดินตามข้อกฎหมาย ปม”ที่ดินเขากระโดง” มีขั้นตอนรอกรมที่ดินตอบอุทธรณ์อีก 60 วัน หากยันไม่เพิกถอน จ่อยื่นศาลปกครองฟันอธิบดีกรมที่ดิน ละเว้นปฎิบัติหน้าที่”วีริศ”เผยยังไม่กล้าเจรจาเช่ารายแปลง โยนอนุฯกฎหมาย ตรวจสอบอำนาจหวั่นผิด 157
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องที่ดินเขากระโดงว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิ์ในที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ของคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ถึงอธิบดีกรมที่ดินไปแล้ว ซึ่งยังต้องรอการพิจารณาของกรมที่ดินก่อน ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอะไร โดยมีการติดตามอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรฟท. จะสามารถใช้คำพิพากษาศาลฎีกา และศาลปกครอง ฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่ดินบริเวณเขากระโดงกว่า 900 แปลงได้เลย ตามที่มีการนำเสนอแนวคิดนี้ หรือไม่ นายสุริยะตอบเพียงว่า ในรายละเอียดต้องรอฝ่ายกฎหมายของ รฟท.สรุปก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
@รฟท.ยันต้องรอฟังผลอุทธรณ์”กรมที่ดิน”อีก 60 วัน
ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯ รฟท. กล่าวว่า ตอนนี้รฟท.ได้ ทำหนังสืออุทธรณ์ไปที่กรมที่ดินแล้ว ก็อยู่ในขั้นตอน ที่กรมที่ดินจะต้องพิจารณาภายในเวลา 30 วัน และจะมีเวลาอีก 30 วัน ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย จะต้องทำหนังสือตอบกลับ รฟท. ซึ่งหากคำตอบของกรมที่ดินยังเหมือนเดิม คือไม่เพิกถอนโฉนดที่ดิน ทางรฟท.ก็จะมีหน้าที่ฟ้องศาลปกครองในขั้นตอนต่อไป ขณะเดียวกันก็ได้ส่งเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายของการรถไฟฯ ว่า ควรทำอะไรมากกว่านี้ไหม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรฟท.จะยื่นฟ้องอธิบดีกรมที่ดินในความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ นายวีริศตอบว่า คงต้องดูผลการอุทธรณ์ที่ยื่นไปก่อนว่าออกมาแบบไหน จากนั้นจะต้องให้ทีมกฎหมายตรวจดูให้รอบคอบ เพราะทาง รฟท.เองก็กลัวจะโดนฟ้องมาตรา 157 เหมือนกัน
ส่วนการรอแบบนี้ไปเรื่อยๆจะเป็นการยื้อเวลาออกไปหรือไม่ ผู้ว่ารฟท.กล่าวว่า เชื่อว่ากรณีนี้สามารถทำอะไรพร้อมๆกันได้ ในช่วงระหว่าง 30 วัน , 60 วัน ที่รอคำตอบจากทางกรมที่ดิน ขณะนี้ มีการคิดไว้หลายแนวทาง แต่จะทำอะไรได้แค่ไหนอย่างไร ต้องปรึกษาทางอนุฯกฎหมาย การรถไฟฯ เพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุด ที่สามารถนำไปบอกกับชาวบ้านได้ และต้องเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย ก็จะพยายามดำเนินการเช่น กรณีการรถไฟฯทำสัญญาเช่ารายแปลงกับชาวบ้าน ก็เป็นโจทย์ที่ได้ปรึกษาทางอนุฯกฎหมายไป
และต้องไม่ลืมว่ามีชาวบ้านกว่า 900 แปลง จำนวนค่อนข้างมากและต้องเข้าใจว่า ชาวบ้านอาจจะซื้อที่ดินนั้นมามีโฉนดด้วย แล้วจะมาถูกไล่ก็คงไม่มีใครชอบแน่
@ ให้เช่ารายแปลง ขอตรวจข้อกฎหมายเพื่อความชัวร์หวั่นผิด 157
“ยืนยันว่า หากอนุฯกฎหมาย บอกว่าอะไรทำได้ และผู้ว่าฯรฟท.มีอำนาจทำได้ ไม่ผิดกฎหมายก็จะทำแน่ เช่น ในระหว่างนี้หากมีชาวบ้านพร้อมจะคุยเพื่อทำสัญญาเช่า การรถไฟฯก็พร้อมจะคุย แต่ไม่ใช่ผู้ว่าฯทำไปแล้วผิดกฎหมาย จะโดนมาตรา 157 ซึ่งคงไม่ใช่ ดังนั้นผมต้องปรึกษาทางกฎหมายให้รอบคอบมากที่สุด” ” นายวีริศกล่าวอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่ดินเขากระโดง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้นโยบายหรือแนวทางการดำเนินกับการรถไฟฯอย่างไรบ้าง นายวีริศกล่าวว่า รมว.คมนาคมไม่ได้ให้นโยบายพิเศษ เพียงแต่ย้ำว่าทำให้ดีที่สุด และย้ำว่าที่ดินรถไฟ จะต้องไม่เสียไปแม้แต่ตารางวาเดียว แต่ต้องทำให้ถูกกฎหมายด้วย