วันนี้ (24 พ.ย.) ทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิ ได้รับการประสานจาก แหล่งข่าวใกล้ชิดกับนายสายหยุด เพ็งบุญชู หรือฉายา ทนายปาเกียว ทนายความคู่ใจผู้ได้รับการมอบหมายจาก "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ให้เป็นผู้ทำคดีฉ้อโกง "มาดามอ้อย" จตุพร อุบลเลิศ จำนวน 71 ล้านบาท และคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 25 พ.ย.) ทนายสายหยุดจะเดินทางไปที่ห้องส่งรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เพื่อแถลงข่าวกับพิธีกร คือ "หนุ่ม" นายกรรชัย กำเนิดพลอย ให้สังคมได้รับทราบว่า จะขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความของนายษิทรา
.
โดยแหล่งข่าวให้เหตุผลว่า เนื่องจากขณะนี้รู้สึกตัวว่าถูกหลอก โดยเฉพาะจากพยานหลักฐานที่ นายษิทรา ตระเตรียมไว้ให้ ล้วนเป็นพยานหลักฐานเท็จ เช่น สัญญาการว่าจ้างทำแอปพลิเคชันสลากออนไลน์ ที่เป็นเพียงฉบับร่าง ตอนนี้เอกสารในมือทนายความไม่มีลายเซ็นผู้ใดเลย ประกอบกับได้ทำการสืบสวนในทางลับแล้วว่า เฉพาะสัญญาฉบับนี้ มีการดัดแปลงแต่งเติมแก้ไข จากคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงานกฎหมายของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด มาจำนวนหลายครั้ง ก่อนที่จะส่งถึงมือทนาย ซึ่งนั่นหมายความว่า นายษิทรา อาจพยายามปิดบังข้อเท็จจริง เหล่านี้ทำให้มิอาจรับทำหน้าที่ทนายความในคดีนี้ให้กับนายษิทราให้ต่อไปอีก
.
ทั้งนี้ แหล่งข่าวยังให้เหตุผลในตอนหนึ่งด้วยว่า ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หนึ่งในทีมงานบ้านพระอาทิตย์ ของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า มีการยื่นข้อมูลพยานและหลักฐานต่างๆ ในคดีให้พนักงานสอบสวนบ้างหรือยัง? โดยยืนยันว่าในขณะนี้ยังไม่ได้ยื่นพยานหลักฐานใดๆ ให้พนักงานสอบสวน มิเช่นนั้น เท่ากับว่าจะเป็นทนายความที่ไม่ได้ทำงานตามข้อเท็จจริงหรืออาจเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกฎหมาย
.
นอกจากนี้ โดยความรู้สึกส่วนตัวนั้น คาดว่านายสายหยุดมิอาจทนทานกระแสสังคมได้ไหว เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากที่ตราหน้า และกล่าวหาว่าเป็นทนายความไร้จริยธรรม ดังนั้นในวันพรุ่งนี้นายสายหยุดจึงได้เตรียมข้อแถลงการณ์ จำนวน 4-5 ข้อ ไปออกรายการโหนกระแสเพื่อขอยุติบทบาทการเป็นทนายความให้กับนายษิทรา