xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.คาดปี 68 ผู้โดยสารรวมพุ่ง 130 ล้านคน หวังนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว 90%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ทอท.คาดปี 68 ผู้โดยสาร 130 ล้านคน หวังนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวแตะที่ 90% เทียบกับปี 62 ส่วนปีใหม่ 68 เป้าผู้โดยสาร 2.86 ล้านคนเพิ่ม 92% จากปีใหม่ 67 ศักยภาพ”สุวรรณภูมิ”รับ 65 ล้านคน/ปี ใช้ระบบ Auto แก้คอขวดหลังตม.เพิ่มความคล่องตัว

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) เปิดเผยว่า จากผลประกอบการในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 -กันยายน 2567) ที่มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 19,182.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,391.52 ล้านบาท คิดเป็น 118.21% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้รวม 67,827.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.01% ซึ่งรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 18,980.38 ล้านบาท คิดเป็น 39.43% แบ่งเป็น รายได้เกี่ยวกับกิจการการบินมีจํานวน 31,000.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,734.64 ล้านบาท คิดเป็น 39.23% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินจํานวน 36,120.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,245.74 ล้านบาท คิดเป็น 39.60% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวม 40,524.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,276.70 ล้านบาท หรือ18.33% ซึ่งน้อยกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้รวมทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเทียบกับรายได้จากการดำเนินงานลดลงจาก 70.08 % ในปีก่อนเป็น 59.71 %
โดย มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.0%1 ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73 %
@ คาดปี 68 ผู้โดยสารรวมโตแตะ 130 ล้านคน

ส่วนปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) คาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32 %แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02%

“ทอท.คาดว่าปี 2568 ผู้โดยสารฟื้นตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 และประเมินแนวโน้มยังดี มีตัวเลขผู้โดยสารที่แข็งแกร่ง ส่วนรายได้เชื่อว่าจะเป็นขาขึ้นด้วยซึ่งมีปัจจัยมาจากปริมาณผู้โดยสาร และมีผลต่อรายได้ทั้ง Aero และ Non Aero ที่จะขาขึ้นไปด้วย ส่วนปัจจัยเสี่ยงจะที่มีผลโดยตรงกับจำนวนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวขณะนี้ยังไม่มีที่น่ากังวล” นายกีรติกล่าว

ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศปี 2567 เติบโตขึ้น และจะดีต่อเนื่องในปี 2568 เพราะสายการบินมีเที่ยวบินต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นหลักที่ขนส่งผู้โดยสารต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในไทย แม้นักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นกลับมาที่ 76% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด (ปี 62) แต่มองว่าในปี 2568 ผู้โดยสารจีนยังเป็นขาขึ้นกลับไปแตะที่ 90% ของปี 2562 ส่วนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญคือ อินเดีย สูงขึ้น 130% จากช่วงก่อนโควิด เป็นผลจากนโยบายฟรีวีซ่า รวมถึงไต้หวัน รัสเซีย ยุโรปตะวันออก สหรัฐ อังกฤษ ที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ลดลง จากปัญหาเงินเยนอ่อนค่า

โดยทอท. มีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางผ่านท่าอากาศยานอย่างเต็มที่ ด้วยการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition สำหรับระบุตัวตนของผู้โดยสารจะมีความพร้อมสมบูรณ์ในการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแก่ผู้โดยสารทุกท่าน ทั้งผู้โดยสารระหว่างประเทศและผู้โดยสารภายในประเทศ โดยผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลก่อน ซึ่งระบบ Biometric จะทำให้ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้รับความสะดวกสบาย และรวดเร็ว ตั้งแต่ขั้นตอนการโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง โดยผู้โดยสารไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป (ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น)


@ปีใหม่ 68 คาดผู้โดยสาร 2.86 ล้านคนฟื้นตัวกว่า 92%

ส่วนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2567 - 4 มกราคม 2568 จะมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่ง ประมาณ 2.86 ล้านคน ฟื้นตัว 92.9% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 (29 ธันวาคม 2562 - 4 มกราคม 2563) แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1.83 ล้านคน ฟื้นตัว 95.3% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 1.03 ล้านคน ฟื้นตัว 88.8% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินประมาณ 17,410 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 97.5 % เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 (29 ธันวาคม 2562 - 4 มกราคม 2563) แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 10,370 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 102% หรือฟื้นตัวเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 7,040 เที่ยวบิน ฟื้นตัว 91.6%

@ เปิดประมูล East Expansion ก.พ.68

นายกีรติ กล่าวว่า ทอท.เตรียมแผนก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (East Expansion) ซึ่งครม.อนุมัติแล้ว ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่อีกประมาณ 81,000 ตารางเมตร รองรับผู้โดยสารได้อีก 15 ล้านคนต่อปี ทำให้เพิ่มขีดความสามารถ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เป็น 80 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน ก.พ. 2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี เปิดให้บริการได้ในกลางปี 2571

ขณะที่ปัจจุบัน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 65 ล้านคน/ปี จากอาคารผู้โดยสารหลัก และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 (SAT-1) ซึ่งในปี 2567 คาดมีผู้โดยสารที่ 60 ล้านคน และคาดว่าในปี 2568 ผู้โดยสารจะเติบโตไปเกือบแตะ 65 ล้านคน ซึ่ง พบว่าปัญหาคอขวดและทำให้สนามบินคับคั่งเป็นส่วนอาคารผู้โดยสาร ที่จะเป็นส่วนที่ใช้เช็คอิน ตรวจค้น และ ตม.(ตรวจคนเข้าเมือง) ดังนั้นจะเพิ่มจุด Self-Check in , Self-bag drop ติดตั้งระบบ Biometric ระบบ ตม.อัตโนมัติ เพื่อทำให้กระบวนการเร็วขึ้น ซึ่งปัจจุบน คิว ตม.เร็วขึ้น เป็น 7,200 คน/ชั่วโมง จากเดิม 5,500 คน/ชั่วโมง

ซึ่งจะทำให้ใช้อาคารหลักไปได้ จนกว่าจะก่อสร้าง อาคาร East Expansion แล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ให้ผู้โดยสารพักคอยก่อนขึ้นเครื่องไม่ได้มีปัญหา

@ทบทวนแผนแม่บท เล็งตัด West Expansion

นายกีรติ กล่าวว่า ขณะนี้ทอท.อยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บทของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าจะมีความชัดเจนไม่เกินเดือน เม.ย.2568 จะพิจารณาว่า ยังจำเป็นต้องสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันตก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (West Expansion) หรือไม่ ที่จะเพิ่มพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลักเป็น 5.6 แสนตารางเมตร โดยจะต้องพิจารณาความต้องการทั้ง Air side และ Land side ด้วย


@วางแผนขยายสนามบิน10 ปี ลงทุน 1.96 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ทอท.มีแผนลงทุน ประมาณ 1.96 แสนล้านบาท ในช่วง 10 ปี (68-78) เพื่อขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานที่ ทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย

1.โครงการส่วนต่อขยายด้านตะวันออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (East Expansion) วงเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท AOT จะดำเนินการเปิดประมูลในเดือน ก.พ.68 และคาดจะรู้ผลและเซ็นสัญญาได้ไม่เกินเดือน พ.ค. 68 คาดเริ่มก่อสร้างในกลางปี 68 และจะแล้วเสร็จในปี 71

2.โครงการขยายท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงินลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท คาดจะเปิดประมูลกลางปี 68 และเริ่มก่อสร้างในปลายปี 68 คาดแล้วเสร็จในปี 72

3.โครงการขยายท่าอากาศยานเชียงใหม่ วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปลายปี 68 จะแล้วเสร็จในปี 72

4.โครงการขยายท่าอากาศยานภูเก็ต วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างในกลางปี 69 จะแล้วเสร็จในปี 72

5.โครงการอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท คาดจะเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2570 แล้วเสร็จในปี 2575
กำลังโหลดความคิดเห็น