อุดรธานี-“ศราวุธ เพชรพนม”ผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกอบจ.อุดรฯจากพรรคเพื่อไทยออกมาโต้แล้ว กรณีถูก “ชัยธวัช”จากพรรคประชาชนปราศรัยพาดพิงกล่าวหาเมียมีเอี่ยวบริษัทค้ายาเสพติด ลั่นหากครอบครัวเอี่ยวยาเสพติดขอให้วิบัติฉิบหายทั้งครอบครัว” มอบอำนาจทนายความร้อง กกต.และเข้าแจ้งความดำเนินคดีอดีต หน.พรรคก้าวไกล
การหาเสียงเลือกตั้งเพื่อชิงเก้าอี้นายก อบจ.อุดรธานีในโค้งสุดท้ายบรรยากาศดุเดือดเข้มข้น ผู้สมัครตัวเต็งจาก 2 พรรคการเมือง คือ นายศราวุธ เพชรพนม จากพรรคเพื่อไทยและนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน ต่างตะลอนขอเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์แทบจะทุกซอกซอยในตัวเมืองอุดรและต่างอำเภอเพราะนอกจากมีเก้าอี้นายก อบจ.เป็นเดิมพันแล้วยังมีศักดิ์ศรีของพรรคค้ำคออยู่
โดยเฉพาะฝั่งของนายศราวุธ หากพ่ายคะแนนการเลือกตั้งครั้งนี้ อดีตนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินอย่างนายทักษิณ ชินวัตรต้องหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆชนิดที่หมอชำนาญการด้านศัลยกรรมชาติไหนก็ไม่รับเย็บ เพราะลงทุนลงพื้นที่ทุ่มช่วยหาเสียงแบบหมดหน้าตักไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ถึงขั้นหลุดปากป่าวประกาศว่าทำนองว่า เลือกนายศราวุธเท่ากับเลือกคนชื่อทักษิณเป็นนายกอบจ.อุดรธานี
ขณะที่ทางพรรคประชาชนเองก็สู้ไม่ถอย สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาบรรดาอดีตแกนนำพรรคก้าวไกล ทั้งนายพิธา นายชัยธวัช นางสาวช่อผกา ฯลฯก็พาเหรดกันลุยหาเสียงช่วยผู้สมัครของตัวเอง ยกสารพัดนโยบายของฝ่ายตนเกทับฝ่ายตรงข้าม ซ้ำตอบโต้กลับนายทักษิณที่ปราศรัยพาดพิงถึงพรรคประชาชน(พรรคก้าวไกล)
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดควันหลงจากการลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายคณิศรของอดีตแกนนำพรรคก้าวไกล นายศราวุธ เพชรพนม หรือเสี่ยป๊อบ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯได้ใช้สำนักงานพรรคเพื่อไทย เป็นสถานที่นัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อตอบโต้นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลและในฐานะผู้ช่วยหาเสียงช่วยผู้สมัครหมายเลข 2 กรณีพูดบนเวทีปราศรัยหาเสียงพาดพิงกล่าวหาภรรยาของตนว่ามีเอี่ยวกับบริษัทค้ายาเสพติด
นายศราวุธ ระบุว่า กรณีนายชัยธวัช ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของอีกฝั่งพูดพาดพิงถึงตนและครอบครัวได้รับความเสียหายในหลายเรื่องหลายประเด็น ซึ่งตนได้มอบอำนาจให้ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายชัยธวัช และไปร้องต่อ กกต.ในประเด็น จงใจปราศรัยใส่ร้ายให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม การที่ไปแจ้งความดังกล่าว ไม่ได้แจ้งความเพราะความโกรธแค้น แต่สิ่งที่นายชัยธวัชพูดควรจะมีเหตุมีมูลมีข้อเท็จจริง พูดสิ่งที่ไม่มีข้อเท็จจริงทำให้ครอบครัวตนได้รับความเสียหาย บนเวทีปราศรัยนายชัยธวัชได้พูดถึงครอบครัวและภรรยาของตนมีหุ้นส่วนกับบริษัทเอี่ยวกับยาเสพติด เรื่องยาเสพติดถือว่าร้ายแรง หากใครไปเกี่ยวข้องยาเสพติด ใครก็ยอมรับไม่ได้ ที่แจ้งความก็เพื่อจะปกป้องครอบครัว
“จึงอยากฝากไปถึงนายชัยธวัชว่าถ้าหากในอดีตที่ผ่านมา ครอบครัวผม ภรรยาผม วงศ์วานหว้านเครือเคยมีผลประโยชน์ในเรื่องยาเสพติดแม้แต่บาทเดียวหรือเคยสนับสนุนเกี่ยวข้องยาเสพติดไม่ว่าทางใดก็ตาม ผมขอพูดต่อหน้าพระที่ผมห้อยคออยู่ที่คอยปกป้องผมและครอบครัว ขอให้ครอบครัวผมมีอันเป็นไปและวิบัติฉิบหายต่อครอบครัวผม”นายศราวุธกล่าวพร้อมกับกำพระเครื่องที่ห้อยคอขึ้นมาชูให้สื่อถ่ายภาพ