ตลาดน้ำมันขยับขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ปัจจัยนี้ดันราคาทองคำฟื้นตัว ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน คาดหมายการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆที่เอื้ออำนวยจากรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในการกลับลำทางนโยบายครั้งสำคัญของวอชิงตัน รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯมอบให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย รอยเตอร์รายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คนและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจในวันอาทิตย์(17พ.ย.)
วังเครมลินระบุในวันจันทร์(18พ.ย.) รัสเซียจะตอบโต้ในสิ่งที่เรียกว่าการตัดสินใจที่ขาดความยั้งคิดของรัฐบาลไบเดน หลังจากเคยเตือนหลายครั้งก่อนหน้านี้ ว่าการตัดสินใจลักษณะดังกล่าวจะเพิ่มความเสี่ยงแห่งการเผชิญหน้ากับพันธมิตรนาโตที่นำโดยสหรัฐฯ
สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเป็นอย่างสูงในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ตามหลังมีข่าวว่าสหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้อาวุธที่มอบให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำฟื้นตัวแรงในวันจันทร์(18พ.ย.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 45.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,615.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันจันทร์(18พ.ย.) นักลงทุนคาดหวังต่อรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของเอ็นวิเดีย ผู้นำด้านเอไอ ขณะที่เทสลา พุ่งขึ้น จากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายที่เอื้ออำนวยโดยรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์
ดาวโจนส์ ลดลง 55.39 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 43,389.60 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.00 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,893.62 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 111.69 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,791.81 จุด
เอ็นวิเดีย มีกำหนดรายงานผลประกอบการในวันพุธ(20พ.ย.) ซึ่งนักลงทุนจะประเมินอุปสงค์สำหรับชิปและความยั่งยืนของเอไอ ยูโฟเรีย ที่เป็นตัวขับเคลื่อนตลาดเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้
ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังจาก ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาอย่างเด็ดขาด แม้ปัจจัยนี้เริ่มอ่อนแรงลงแล้วในระยะหลัง
(ที่มา:รอยเตอร์)