ศูนย์ข่าวศรีราชา - บึ๊มกลางสะพานชลมารควิถี จ.ชลบุรี รถส่งแก๊สระเบิดเสียงดังสนั่นหลายครั้งก่อนไฟลุกท่วม คนขับรีบเผ่นหนีตายแต่ไม่วายถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บ ขณะผู้ใช้รถบนสะพานถึงขั้นขวัญผวา เจ้าหน้าที่ดับเพลิง-กู้ภัยฯ ต้องเร่งเข้าระงับเหตุ
เมื่อเวลา 15.00น. วันนี้ ( 16 พ.ย.) ได้เกิดเหตุรถกระบะบรรทุกถังแก๊งระเบิดเสียงดังสนั่นหลายครั้งก่อนเกิดไฟลุกท่วม บนสะพานเลียบชายทะเลชลบุรี หรือสะพานชลมารควิถี ช่วงแยกคลองสังเขป ต.มะขามหย่ง อ.เมือง จ.ชลบุรี สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้ใช้รถบนสะพานดังกล่าว โดยกล้องหน้ารถของพลเมืองดีที่ขับตามหลังสามารถบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองชลบุรี และกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ได้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ ก่อนประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองชลบุรี และเทศบาลตำบลบางทราย เข้าฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง พร้อมกันรถยนต์คันอื่นไม่ให้เข้าใกล้จุดระเบิด
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ หมายทะเบียน ผฉ 3322 ชลบุรี ที่ยังมีเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังเป็นระยะ เจ้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาฉีดน้ำงนานถึง 1 ชั่วโมงจึงสงบและสามารถเคลียร์ถังแก๊สออกจากพื้นที่ได้ ขณะที่สภาพรถกระบะฉีกขาดทั้งคันจากแรงระเบิด
นอกจากนั้นยังพบถังแก๊สขนาดใหญ่บรรจุถังละ 48 กิโลกรัมอีก4 ถัง ส่วนคนขับรถยังไม่ทราบชื่อเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกทั่วร่างกาย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี เป็นการดาวน
จากการสอบถาม นายณัฐพล วัยวุฒิ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่สมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา พลเมืองดีที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์และได้นำรถกู้ภัยฯ จอดขวางจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์คันอื่นๆ เข้าใกล้ ทราบว่าขณะเกิดเหตุตนเองได้ขับรถอยู่บนสะพานเลียบชายทะเลเพื่อเดินทางกลับบ้านหลังพาลูกมาเที่ยวชายทะเลบางแสน และได้สังเกตุเห็นควันไฟลอยขึ้นจากสะพานจึงรีบนำรถยนต์ของตนเองซึ่งเป็นรถกู้ภัยฯ จอดปิดท้ายรถคันเกิดเหตุซึ่งมีไฟลุกท่วม
ก่อนจะประสานขอรถดับเพลิงในพื้นที่เข้าช่วยระงับเหตุ เนื่องจากพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คนซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว และจากการตรวจสอบพบว่ามีบาดแผลไฟไหม้ตามตัวประมาณ 5 -10 เปอร์เซ็นต์
“ รถที่เกิดการระเบิดน่าจะเป็นรถส่งแก๊ส ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ากลัวมากเพราะขนาดขับรถอยู่ตั้งไกลยังโดนสะเก็ดระเบิดได้ ซึ่งในเบื้องต้นอาจเป็นเพราะรถคันดังกล่าวไม่ได้รัดถังแก๊สไว้ หรืออาจวางถังแก๊สนอนมา เมื่อรถเบรกถังแก๊สที่วางอยู่จึงกระแทกกันจนเกิดการระเบิดขึ้น” นายณัฐพล กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้สอบสวนคนขับรถกระบะที่เกิดการระเบิดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
