เตรียมปราบแก๊งตบทรัพย์ 'บิ๊กเต่า' สอบเข้มทุกกรณี คาดมีบอสโดนไถอีกเพียบ
มหากาพย์ข่าว The Icon เวลานี้ถือว่าขยายวงไปไกลมาก โดยไม่ได้มีเพียงเฉพาะการเอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังพบขบวนการตบทรัพย์ของบรรดาของบุคคลที่สวมสูทแสร้งทำตัวเป็นคนดีด้วย โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ที่มีการเรียกรับเงิน นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคึบหน้าในการสอบสวนนักตบทรัพย์ว่า กรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสพอล จำนวน 300,000 บาท และ 450,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ไปแล้วถึง 80-90% และจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นในส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับ
บิ๊กเต่า ระบุอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องต่อมาคือเรื่องใหม่ที่ทนายของ นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีระหว่าง น.ส.กฤษอนงค์ กับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ที่มีการกล่าวอ้างชื่อหนุ่ม กรรชัย และรายการโหนกระแสไปเรียกรับเงินจากบอสปันและบอสพอล จำนวน 20 ล้านบาทนั้น ในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบของ กก.1 บก.ป. เบื้องต้นในส่วนที่หนุ่ม กรรชัย แจ้งความเอาผิด 2 บุคคลดังกล่าวในข้อหาพยายามฉ้อโกงและหมิ่นประมาท และจากหลักฐานที่ได้มายืนยันว่าคลิปเสียงไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ได้มีการประสานทนายบอสพอลเพื่อให้นำหลักฐานต่างๆ มาร้องทุกข์ แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทนายบอสพอลยืนยันว่าจะดำเนินคดีด้วย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด
"คาดว่ายังมีบอสอีกหลายคนที่ถูกกระทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้ขอทำเป็นเรื่องๆ ไปก่อน" บิ๊กเต่า ระบุ
ด้าน นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่า ยอมรับว่าเสียงผู้หญิงในคลิปบันทึกเสียงดังกล่าวเป็นตัวเองจริง แต่คลิปเสียงมีการตัดตอนออกบางช่วง ส่วนจำนวนเงิน 20 ล้านบาทนั้น เป็นค่าแผนงานโครงสร้างธุรกิจ เช่น งบประชาสัมพันธ์, เงินเยียวยาผู้เสียหาย โดยเงินจำนวนนี้เกิดจากพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทดิไอคอน ที่ประเมินมูลค่าแผนงานดังกล่าวมาจากขนาดธุรกิจ
ไที่ตัวเองตกเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน จำนวน 89 คน ให้ได้รับเงินเยียวยา จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์มีความแค้น"