ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพุธ (13 พ.ย.) จากแรงช้อนซื้อหนึ่งวันหลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน จากข้อมูลเงินเฟ้อที่เป็นไปตามความคาดหมาย ขณะที่ทองคำปรับลดเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 68.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 72.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แรงช้อนซื้อของนักลงทุนพยุงตลาดน้ำมันฟื้นตัวเล็กน้อยในวันพุธ (13 พ.ย.) หลังจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร (12 พ.ย.) ตามหลังโอเปกปรับประมาณการการเติบโตอุปสงค์น้ำมันโลกสำหรับปี 2024 และปี 2025 อ้างอิงอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน อินเดียและภูมิภาคอื่นๆ ถือเป็นความเคลื่อนไหวปรับลดประมาณการ 4 รอบติดต่อกันแล้วในปีนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันพุธ (13 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ขยับขึ้น หลังข้อมูลราคาผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคมเป็นไปตามที่คาดหมายไว้ เพิ่มความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยอีกรอบในเดือนธันวาคม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 47.21 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 43,958.19 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.39 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,985.38 จุด แนสแดค ลดลง 50.66 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,230.74 จุด
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนตุลาคม เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสถิติแนงงานกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ทั้งนี้หากไม่นับรวมอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนตุลาคม ตรงตามที่พวกนักเศรษฐศาสตร์คาดหมายไว้
หลังจากรายงานนี้ถูกเผยแพร่ออกมา พวกนักลงทุนคาดหมายว่ามีโอกาสมากกว่า 82% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นจากระดับ 58.7% ในวันจันทร์ อ้างอิงข้อมูล FedWatch ของซีเอ็มอี กรุ๊ป
ส่วนราคาทองคำขยับลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในวันพุธ (13 พ.ย.) ถูกฉุดจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นไปตามความคาดหมาย โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 25.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,581.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)