MGR Online - “ทนายวิฑูรย์” เผย "บอสพอล" ฝากบอกจุดเริ่มต้นคดี "ดิไอคอน" จากนักร้องเรียนสาวพาผู้เสียหาย เจรจาจ่าย 8.3 ล้านบาท แต่ข้อมูลหลุดเพจเฟซบุ๊กผี จนกระแสโจมตีหนัก
วันนี้ (13 พ.ย.67) เวลา 16.00 น. บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมลูกความ นานกว่า 5 ชั่วโมง กล่าวว่า บอสพอลฝากคำพูดบอกให้ตนมาเกี่ยวกับกรณี บริษัท ดิไอคอน นั้น เริ่มต้นเมื่อช่วง มิ.ย.-ก.ค.67 ที่โดนตบทรัพย์ครั้งแรก เนื่องจาก น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ติดต่อมาว่ามีผู้เสียหายจำนวนนึง อ้างยอดความเสียหาย 15 ล้านบาท ถ้าไม่รับเคลียร์จะมีการออกสื่อพาไปร้อง สคบ. หรือหน่วยงานรัฐ บอสพอลกลัวบริษัทฯ เสียชื่อเสียงจึงยอมเจรจากับคนที่อ้างเป็นผู้เสียหาย 83 ราย แม้บางคนเบิกสินค้าไปขายหมดแล้ว บางคนนำสินค้าไปบริโภคหมดแล้ว บางคนขายสินค้าไม่ได้ จนเมื่อเดือน ก.ค. ก็จ่ายไปประมาณ 8.3 ล้านแบ่งเป็น ให้ผู้เสียหาย 7 ล้านบาท และจ่ายค่าดำเนินการให้ น.ส.กฤษอนงค์ รวม 2 ก้อน จำนวน 4.5 แสนบาท โอนเข้ากองทุนบริษัท และ 3 แสนบาท เป็นเงินสด เพื่อเก็บรักษาความลับครั้งนี้ไว้ ซึ่งคดีนี้มีการแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์เอาผิดเรียบร้อยแล้ว
"จากนั้น ผู้เสียหายกลุ่มนี้ได้นำข้อมูลไปปล่อยในเพจเฟซบุ๊กผีหรือเพจอวตาร จึงเริ่มมีกระแสโจมตีบริษัท ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. จนมีเหตุการณ์และคนทราบเรื่องว่าเคยมีการเคลียร์เงินมาแล้ว ทำให้เกิดอยากมีพฤติการณ์เอาอย่างบ้าง กลุ่มคนที่ซื้อสินค้าไปแล้วขายไม่ได้หรือไม่ได้ขายก็เริ่มมีการเข้ามาติดต่อ น.ส.กฤษอนงค์ มากยิ่งขึ้น และกลุ่มทนายแอดเวนเจอร์ เพื่อมาเรียกร้องความเสียหายกับทางบริษัท"
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ส่วนครั้งแรก บริษัท ดิไอคอน ยอมจ่ายไปแล้วและไม่ได้ตรวจสอบกลุ่มลูกค้า ทำให้จะไม่ยอมจ่ายอีกแล้วจนปัญหาต่างๆ เริ่มก่อตัวขึ้นมา กระทั่งช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. มีการรวบรวมกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายมาร้องเรียนจนมีการออกรายการโหนกระแส อีกทั้ง เพจเฟซบุ๊กผีก็เผยแพร่ข่าวโจมตี ดิไอคอน เรื่อยๆ จนเป็นที่มาของคลิปเสียง 2 คลิปล่าสุด เรียกตบทรัพย์ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยข่าวว่าสินค้า ดิไอคอน ไม่มี อย. ซึ่งจริงแล้วมี อย. ทุกอย่าง หรือ ไม่มีสินค้าในโกดัง
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า ในประเด็นกรณีคลิปเสียงตบทรัพย์ 20 ล้านบาท แม้ว่าบอสพอลจะไม่ได้ไปพูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ แต่บอสปันได้โทรศัพท์คุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" ช่วงประมาณห้าทุ่มและเที่ยงคืน วันที่ 9 ต.ค. โดยทางบอสปัน มีเลขาฯ 2 คนร่วมรับฟังด้วย เนื้อหาสาระตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน น.ส.กฤษอนงค์ ก็ได้คุยกับบอสปันว่า วันที่ 10 ต.ค. จะพาผู้เสียหายไปร้องที่ สคบ. เพื่อเบี่ยงทิศทางคดี รวมทั้งมีการพูดถึงค่าใช้จ่ายดำเนินการด้วย ซึ่งจริงแล้วบอสปันอยากคุยกับ คุณกรรชัย เจ้าของรายการ แต่บอกว่าไม่ได้ต้องผ่าน นายรัฐภูมิ ที่เป็นตัวกลาง เมื่อออกรายการแล้วทุกอย่างจะจบอย่างสวยงาม โดยเรื่องคลิปเสียงเตรียมดำเนินคดีกับทั้ง 2 คนในข้อหาพยายามฉ้อโกง แม้จะยังไม่ได้ทรัพย์สินก็ตามแต่ความผิดสำเร็จแล้ว
นายวิฑูรย์ กล่าวเสริมว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในคดี ดิไอคอน เกิดจากกลุ่มคนที่ขายสินค้าไม่ได้แล้วไปหากลุ่มทนายเพราะอยากได้เงิน เหมือนกับคนที่ได้เงินไปก่อนหน้านี้ในช่วงแรก แต่พอไม่จ่ายกลับมีการแจ้งความดำเนินคดี จนนำมาสู่การจับกุมบรรดาเหล่าบอสเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกระแสสังคมมีผลต่อกระบวนการยุติธรรม แม้วันนี้จะยังไม่ทราบข้อเท็จจริง รวมถึงบอสดาราได้เข้าไปชี้แจงและนำพาสปอร์ตไปยืนยันว่าจะไม่หลบหนี แต่สุดท้ายก็ถูกออกหมายจับ
นายวิฑูรย์ ระบุว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ "สายไหมต้องรอด" พาพยานเท็จให้ข้อมูลกับตำรวจเรื่องเงินคริปโต กว่า 8,000 ล้านบาท และมีการจ่ายถึงเงินให้กับเทวดา พร้อมพยายามโยงไปกับนักการเมือง แต่สุดท้ายก็ไม่ชัดเจน มีการจ่ายสินบนให้กับหน่วยงานใด และช่วงนั้นข่าวเล่นแรงมาก ตนจึงอยากถามว่าจะรับผิดชอบชีวิตของบอสและหน่วยงานที่ถูกกล่าวอ้างยังไงในประเด็นดังกล่าว ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี
นายวิฑูรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับคลิปเสียงโยงอดีตนักการเมือง ส. ในส่วนนี้ไม่ได้ไปแจ้งความเพราะจากการสอบถามข้อเท็จจริงคลิปเต็มเกิดขึ้นตั้งแต่ เม.ย.66 เป็นช่วงที่จะมีการทำพรรคการเมือง และพูดคุยเรื่องค่าตอบแทนกัน ไม่ใช่การรีดไถเงิน นอกจากนี้ กรณี ทนายตั้ม ที่เคยมีประเด็นเรียกรับเงินยังไม่ชัดเจนว่าเป็นการตบทรัพย์ เพราะเกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้ต้องหาเข้าแจ้งความแล้ว ถือว่าทำหน้าที่เจรจาไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหาย ซึ่งทนายตั้มและบอสพอลเจอกันในเรือนจำหรือไม่ ตนไม่ได้สอบถามเรื่องนี้แต่เชื่อว่าน่าจะเจอกันบ้างในช่วงกินข้าว