xs
xsm
sm
md
lg

จับตาประชุมใหญ่ศาลปกครอง ดับฝัน 'บิ๊กโจ๊ก' กลับสตช. พบขบวนการล็อบบี้หนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



จับตาประชุมใหญ่ศาลปกครอง ดับฝัน 'บิ๊กโจ๊ก' กลับสตช. พบขบวนการล็อบบี้หนัก


แม้ว่าทุกวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. จะถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 178/2567 แต่การที่บิ๊กโจ๊กใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ทำให้ยังคงเป็นความเคลื่อนไหวที่หลายฝ่ายได้จับตามองอย่างใกล้ชิด

สำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.), นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 ต่อศาลปกครองสูงสุด โดยยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าประธานศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเตรียมให้นำคดีเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยหลักเกณฑ์ที่จะนำเข้าที่ประชุมคดีใหญ่จะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจมีผลกระทบเป็นวงกว้าง เเละมีประเด็นข้อกฎหมายอันสำคัญ

องค์คณะที่พิจารณาคดีนี้ในศาลปกครองสูงสุดประกอบด้วยตุลาการจากศาลปกครองสูงสุด จำนวน 5 คนเป็นองค์คณะ ซึ่งเมื่อประธานศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้นำคดีเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด องค์คณะทั้ง 5 จะสรุปข้อเท็จจริงเสนอความเห็นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดเพื่ออภิปรายพิจารณาเเละมีมติเป็นคำพิพากษา หรือคำสั่งต่อไป ทั้งนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดในปัจจุบันมีตุลาการศาลปกครองสูงสุดประมาณ 20 กว่าคน

ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการนำคดีเข้าสู่ระบบของศาลปกครองทำให้มีรายงานว่า มีความเคลื่อนไหวด้วยการพยายามล็อบบี้ให้อนุกรรมการของศาลปกครองพิจารณาและมีความเห็นในทำนองกลับคำวินิจฉัยของ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อเปิดโอกาสให้บิ๊กโจ๊กสามารถกลับเข้ามาเป็นตำรวจได้อีกครั้ง

แต่ปรากฎว่าประธานศาลปกครองสูงสุดได้นัดประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสุดในวันที่ 13 พฤศจิกายน เพื่อพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ภายหลังพบว่าเนื่องจากพบว่ากระบวนการพิจารณาขององค์คณะมีความบกพร่อง และมีการทำรายงานสรุปเสนอเพียง 3 หน้าเท่านั้น

ดังนั้น ต้องรอดูว่าผลการประชุมของตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่มีประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นประธานการประชุมนั้นจะมีบทสรุปอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นการวางหลักการถึงกระบวนการพิจารณาคดีปกครองครั้งสำคัญอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
กำลังโหลดความคิดเห็น